ฟังก์ชันเกี่ยวกับมิติ A-C D-G H-L M-Q R-Z ขั้นสูง ขั้นสูง ขั้นสูง ขั้นสูง ขั้นสูง _format ( expression , format_keyword ) เชื่อมโยงรูปแบบกับนิพจน์ format_keyword สามารถเป็น PERCENTAGE_0, PERCENTAGE_1 หรือ PERCENTAGE_2 PERCENTAGE_1 จะส่งคืนเปอร์เซ็นต์ที่มีหนึ่งหลักทางขวาของจุดทศนิยม PERCENTAGE_2 จะส่งคืนเปอร์เซ็นต์ที่มีสองหลักทางขวาของจุดทศนิยม และ PERCENTAGE_3 จะส่งคืนค่าเปอร์เซ็นต์ที่มีสามหลักทางขวาของจุดทศนิยม (เช่น 0.965) ตัวอย่าง: _format ( [Unit Sale Price] / [Unit Price] , PERCENTAGE_2 ) ผลลัพธ์: 75.12% ancestor ( member, level|integer ) ส่งคืน ancestor ของ "member" ที่ "level" หรือที่ตัวเลข "integer" ของ ancestor ที่มากกว่า "member" หมายเหตุ: ผลลัพธ์จะไม่รับประกันความถูกต้องเมื่อมี ancestor ลำดับดังกล่าวมากกว่าหนึ่งรายการ ตัวอย่างเช่น: ancestor ( [TrailChef Water Bag] , 1 ) ผลลัพธ์: Cooking Gear ตัวอย่าง: ancestor ( [TrailChef Water Bag] , 2 ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: ancestor ( [TrailChef Water Bag] , [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product type] ) ผลลัพธ์: Cooking Gear caption ( level|member|set_expression ) ส่งคืนค่า caption ของ "level", "member" หรือ "set_expression" caption เป็นชื่อที่แสดงของสตริงสำหรับอิลิเมนต์และไม่จำเป็นต้องตรงกับตัวบ่งชี้เฉพาะที่ใช้เพื่อสร้างคีย์ทางธุรกิจหรือชื่อเฉพาะของสมาชิก (MUN) สำหรับอิลิเมนต์ caption ไม่จำเป็นต้องไม่ซ้ำกัน เช่น caption สำหรับเดือนอาจส่งคืนชื่อเดือนที่มีรายละเอียดปีเพิ่มเติมเพื่อทำให้ค่าไม่ซ้ำกัน ตัวอย่าง: caption ( [TrailChef Water Bag] ) ผลลัพธ์: TrailChef Water Bag ตัวอย่าง: caption ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนค่า caption ของชุด Product line Camping Equipment Mountaineering Equipment Personal Accessories Outdoor Protection Golf Equipment children ( member ) ส่งคืนชุดของลูกๆ ของสมาชิกที่ระบุ ตัวอย่าง: children ( [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชุดของลูกๆ ของ Camping Equipment Cooking Gear Tents Sleeping Bags Packs Lanterns closingPeriod ( level [ , member ] ) ส่งคืนสมาชิก sibling สุดท้ายจากสมาชิกที่ "level" โดยทั่วไปฟังก์ชันนี้จะใช้กับมิติเวลา ตัวอย่าง: closingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Month] ) ผลลัพธ์: 2006/Dec ตัวอย่าง: closingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ) ผลลัพธ์: 2006 ตัวอย่าง: closingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Month] , [2006 Q 4] ) ผลลัพธ์: 2006/Dec completeTuple ( member { , member } ) ระบุตำแหน่งเซลล์ (การตัดกัน) โดยยึดตามสมาชิกที่ระบุ ที่ต้องมาจากมิติที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม completeTuple () จะรวมสมาชิกดีฟอลต์จากมิติทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ในอาร์กิวเมนต์ แทนที่จะเป็นสมาชิกปัจจุบัน CompleteTuple จะใช้การวัดดีฟอลต์แทนที่จะเป็น currentMeasure ในเคียวรี ถ้าไม่ได้กำหนดการวัดไว้ในฟังก์ชัน completetuple ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Planned Headcount ในแพ็กเกจ GO Data Warehouse (analysis) ตัวอย่าง: completeTuple ( [Mountaineering Equipment] , [Fax] ) ผลลัพธ์: completeTuple จะไม่เลือก currentMember โดยดีฟอลต์เช่นเดียวกับฟังก์ชัน tuple ค่าในคอลัมน์แรกจะเหมือนกันทุกปี เนื่องจากจะใช้สมาชิกดีฟอลต์ของมิติ Years, สมาชิก root, แทนที่จะใช้สมาชิกปัจจุบัน ในทำนองเดียวกัน คอลัมน์แรกจะแสดง Revenue แทนที่จะแสดง Quantity Sold เนื่องจากการวัด Revenue เป็นค่าดีฟอลต์จากมิติ Measures CompleteTuple จะใช้การวัดดีฟอลต์แทนที่จะเป็น currentMeasure ในเคียวรี ถ้าไม่ได้กำหนดการวัดไว้ในฟังก์ชัน completetuple Qty Sold Mountaineering Sales by Fax -------- -------------- 2004 $1,220,329.38 2005 $1,220,329.38 2006 $1,220,329.38 ตัวอย่าง: completeTuple ( [Mountaineering Equipment] , [Fax] , [Quantity sold] , currentMember ( [great_outdoors_company].[Years].[Years] ) ) ผลลัพธ์: ฟังก์ชัน completeTuple ใช้ currentMember ของมิติ Years และการวัด Quantity sold Qty Sold Mountaineering Sales by Fax ----------- ------------------------------------------ 2004 0 2005 8,746 2006 7,860 unique ( set_expression ) ลบรายการที่ซ้ำกันทั้งหมดจาก "set_expression" สมาชิกที่เหลือจะยังคงมีลำดับเดิม openingPeriod ( level [ , member ] ) ส่งคืนสมาชิก sibling สุดแรกจากสมาชิกที่ "level" โดยทั่วไปฟังก์ชันนี้จะใช้กับมิติเวลา ตัวอย่าง: openingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Month] ) ผลลัพธ์: 2004/Jan ตัวอย่าง: openingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ) ผลลัพธ์: 2004 ตัวอย่าง: openingPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Month] , [2006 Q 4] ) ผลลัพธ์: 2006/Oct parallelPeriod ( level [ , integer_expression [ , member ] ] ) ส่งคืนสมาชิกจากช่วงเวลาก่อนหน้านี้ในตำแหน่งแบบสัมพันธ์เดียวกันกัน "member" ฟังก์ชันนี้คล้ายกับฟังก์ชัน cousin แต่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับชุดเวลากว่า โดยจะใช้ลูกๆ ของ "member" ที่ "level" (เรียกว่า "ancestor") และ sibling ของ "ancestor" ที่เหลื่อมกัน "integer_expression" ตำแหน่ง และส่งคืนช่วงเวลาที่ขนานกันของ "member" จากลูกๆ ของ sibling นั้น เมื่อไม่ได้ระบุ "integer_expression" จะมีค่าดีฟอลต์เป็น 1 และ "member" มีค่าดีฟอลต์เป็นสมาชิกปัจจุบัน ตัวอย่าง: parallelPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Quarter] , -1 , [2006/Aug] ) ผลลัพธ์: 2006/Nov ตัวอย่าง: parallelPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Quarter] , 1 , [2006/Aug] ) ผลลัพธ์: 2006/May ตัวอย่าง: parallelPeriod ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] , 2 , [2006/Aug] ) ผลลัพธ์: 2004/Aug cousin ( member1 , member2 ) ส่งคืนสมาชิกชายด์ของ "member2" ที่มีตำแหน่งแบบสัมพันธ์เดียวกันกับ "member1" กับพาเรนต์ ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Revenue by GO Subsidiary 2005 ในแพ็กเกจ GO Data Warehouse (analysis) ตัวอย่าง: cousin ( [Irons] , [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: Cooking Gear ตัวอย่าง: cousin ( [Putters] , [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: Sleeping Bags crossjoin ( set_expression1 , set_expression2 ) ส่งคืน cross product ของ "set_expression1" และ "set_expression2" currentMember ( hierarchy ) ส่งคืนสมาชิกปัจจุบันของลำดับชั้นระหว่าง iteration ถ้าไม่มี "hierarchy" ในบริบทที่นิพจน์ถูกประเมิน จะใช้สมาชิกดีฟอลต์ ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Rolling and Moving Averages แบบมีการโต้ตอบ defaultMember ( hierarchy ) ส่งคืนสมาชิกดีฟอลต์ของ "hierarchy" ตัวอย่าง: defaultMember ( [great_outdoors_company].[Products].[Products] ) ผลลัพธ์: Products ตัวอย่าง: defaultMember ( [great_outdoors_company].[Years].[Years] ) ผลลัพธ์: Year ตัวอย่าง: defaultMember ( hierarchy ( [great_outdoors_company].[Measures].[Quantity sold] ) ) ผลลัพธ์: Revenue emptySet ( hierarchy ) ส่งคืนชุดของสมาชิกว่างสำหรับ "hierarchy" ซึ่งมักใช้เป็นจุดยึดระหว่างการพัฒนาหรือที่มีการออกแบบรายงานแบบไดนามิก (ทั้งโดยใช้ IBM® Cognos® Software Development Kit หรือผ่านการออกแบบรายงาน) โดยการสร้างไอเท็มข้อมูลที่มีฟังก์ชัน emptyset คุณสามารถสร้างนิพจน์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นที่สามารถปรับปรุงได้ในภายหลังโดยการกำหนดไอเท็มข้อมูล emptyset ใหม่ ตัวอย่าง: except ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] , emptySet ( [great_outdoors_company].[Products].[Products] ) ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชุดของ Product line และชุดว่าสำหรับชุดของ Products Camping Equipment Golf Equipment Mountaineering Equipment Outdoor Protection Personal Accessories firstChild ( member ) ส่งคืนชายด์แรกของ "member" ตัวอย่าง: firstChild ( [By Product Lines] ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: firstChild ( [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: Cooking Gear firstSibling ( member ) ส่งคืนชายด์แรกของพาเรนต์ของ "member" ตัวอย่าง: firstSibling ( [Outdoor Protection] ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: firstSibling ( [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: Camping Equipment hierarchy ( level|member|set_expression ) ส่งคืนลำดับชั้นที่มี "level", "member" หรือ "set_expression" ตัวอย่าง: hierarchy ( [Cooking Gear] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกทั้งหมดในลำดับชั้นที่มี Cooking Gear Products Camping Equipment Cooking Gear TrailChef Water Bag TrailChef Canteen ... Mountain Man Extreme Mountain Man Deluxe ตัวอย่าง: hierarchy ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกทั้งหมดในลำดับชั้นที่มี the Product Products Camping Equipment Cooking Gear TrailChef Water Bag TrailChef Canteen ... Mountain Man Extreme Mountain Man Deluxe isEmpty ( value_expression ) ส่งคืนค่า true ถ้า "value_expression" เป็น null ไม่เช่นนั้นส่งคืนค่า false item ( set_expression , index ) ส่งคืนสมาชิกจากตำแหน่ง "index" ภายใน "set_expression" ดัชนี้ลงในชุดเป็นศูนย์ ตัวอย่าง: item ( children ( [Camping Equipment] ) , 2 ) ผลลัพธ์: Sleeping Bags lag ( member , index_expression ) ส่งคืนสมาชิก sibling ที่เป็น "index_expression" จำนวนของตำแหน่งก่อนหน้า "member" ตัวอย่าง: lag ( [Tents] , 1 ) ผลลัพธ์: Cooking Gear ตัวอย่าง: lag ( [Tents] , -2 ) ผลลัพธ์: Packs lastChild ( member ) ส่งคืนชายด์สุดท้ายของสมาชิกที่ระบุ ตัวอย่าง: lastChild ( Cooking Gear ) ผลลัพธ์: TrailChef Utensils ตัวอย่าง: lastChild ( [By Product Line] ) ผลลัพธ์: Golf Equipment lastSibling ( member ) ส่งคืนชายด์สุดท้ายของพาเรนต์ของสมาชิกที่ระบุ ตัวอย่าง: lastSibling ( [Camping Equipment] ) ผลลัพธ์: Golf Equipment lead ( member , index_expression ) ส่งคืนสมาชิก sibling ที่เป็น "index_expression" จำนวนของตำแหน่งหลังจาก "member" ถ้า "index_expression" เป็นลบ จะส่งคืนสมาชิก sibling ที่เป็น "index_expression" จำนวนของตำแหน่งก่อนหน้า "member" ตัวอย่าง: lead ( [Outdoor Protection] , 1 ) ผลลัพธ์: Personal Accessories ตัวอย่าง: lead ( [Outdoor Protection] , -2 ) ผลลัพธ์: Golf Equipment level ( member ) ส่งคืนระดับของ "member" ตัวอย่าง: level ( [Golf Equipment] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกที่อยู่บนระดับ Golf Equipment Camping Equipment Mountaineering Equipment Personal Accessories Outdoor Protection Golf Equipment levels ( hierarchy , index ) ส่งคืนระดับใน "hierarchy" ที่มีห่างจาก root ที่ระบุโดย "index" ตัวอย่าง: levels ( [great_outdoors_company].[Products].[Products] , 2 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกสองระดับจากลำดับชั้น root ของ Products Cooking Gear Sleeping Bags Packs Tents ... Irons Putters Woods Golf Accessories ตัวอย่าง: levels ( [great_outdoors_company].[Products].[Products] , 1 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกหนึ่งระดับจากลำดับชั้น root ของ Products Camping Equipment Mountaineering Equipment Personal Accessories Outdoor Protection Golf Equipment linkMember ( member , level|hierarchy ) ส่งคืนสมาชิกที่สอดคล้องใน "level" หรือ "hierarchy" (ของมิติเดียวกัน) สำหรับลำดับชันที่ใช้ระดับ ต้องระบุระดับเป็นอาร์กิวเมนต์ที่สอง และสำหรับลำดับชันแบบพาเรนต์-ชายด์ ต้องระบุลำดับชั้น ข้อยกเว้นจะถูกแสดงเมื่อพารามิเตอร์ตังที่สองไม่ถูกแปลงเป็นลำดับชั้นของมิติของสมาชิก โปรดสังเกตว่า ไม่สนับสนุนสมาชิกที่ถูกคำนวณเป็นอาร์กิวเมนต์แรก member ( value_expression [ , string1 [ , string2 [ , hierarchy ] ] ] ) กำหนดสมาชิกโดยยึดตาม "value_expression" ใน "hierarchy" "String1" ระบุสมาชิกที่สร้างขึ้นโดยฟังก์ชันนี้ ซึ่งต้องไม่ซ้ำกันในเคียวรีและแตกต่างจากสมาชิกอื่นในลำดับชั้นเดียวกัน "String2" เป็น caption ของสมาชิก หากไม่ได้ระบุ caption จะว่าง เพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่สามารถคาดเดาได้ แนะนำให้คุณระบุ "hierarchy" หมายเหตุ: การคำนวณทั้งหมดที่ใช้เป็นไอเท็มการจัดกล่มที่มีไอเท็ม sibling เป็นการคำนวณหรือชุดสมาชิกอื่นควรถูกกำหนดให้กับลำดับชั้นอย่างชัดเจนโดยใช้ฟังก์ชันนี้ ไม่เช่นนั้น ผลลัพธ์จะไม่สามารถคาดเดาได้ ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือ ตำแหน่งที่การคำนวณเกี่ยวข้องเฉพาะสมาชิกของลำดับชั้นเดียวกันกับ siblings ในกรณีนี้ การคำนวณจะถือว่าเป็นของลำดับชั้นนั้น ตัวอย่าง: member ( total ( currentMeasure within set filter ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product name] , caption ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product name] ) starts with 'B' ) ) , 'BProducts' , 'B Products' , [great_outdoors_company].[Products].[Products] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนปริมาณที่ขายไปและรายรับสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร B members ( hierarchy|level ) ส่งคืนชุดของสมาชิกใน "hierarchy" หรือ "level" ในกรณีของลำดับชั้น จะไม่รับประกันลำดับของสมาชิกในผลลัพธ์ ถ้าต้องการลำดับที่สามารถคาดเดาได้ ต้องใช้ฟังก์ชันการจัดลำดับที่ชัดเจน (เช่น hierarchize) ตัวอย่าง: members ( [great_outdoors_company].[Years].[Years] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกใน Years ตัวอย่าง: members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกใน Product line nestedSet ( set_expression1 , set_expression2 ) ฟังก์ชันนี้สำหรับใช้โดย Analysis Studio เท่านั้น ผลลัพธ์: ส่งคืนสองผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนสุดโดยรายรับสำหรับสำหรับสายผลิตภัณฑ์ nextMember ( member ) ส่งคืนสมาชิกถัดไปในระดับ "member" ตัวอย่าง: nextMember ( [Outdoor Protection] ) ผลลัพธ์: Golf Equipment ordinal ( level ) ส่งคืนค่าลำดับที่เป็นศูนย์ (ระยะห่างจากระดับ root) ของ "level" ตัวอย่าง: ordinal ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ผลลัพธ์: 1 ตัวอย่าง: ordinal ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product type] ) ผลลัพธ์: 2 parent ( member|measure ) ส่งคืนสมาชิกที่เป็นพาเรนต์ของ "member" หรือ "measure" ตัวอย่าง: parent ( [Cooking Gear] ) ผลลัพธ์: Camping Equipment _addMemberToSet ( member_expression , set_expression , parent|null , sibling|null , position ) ข้อควรระวัง: ใช้ภายในเท่านั้น ห้ามเพิ่มฟังก์ชันนี้เข้ากับรายงาน ส่งคืนชุด ฟังก์ชันนี้จะแทรก "member_expression" ลงใน "set_expression" ทันที BEFORE หรือ AFTER sibling โปรดสังเกตว่า "member_expression" และ "set_expression" ต้องมาจากมิติและลำดับชั้นเดียวกัน "Parent" เป็นชื่อเฉพาะของพาเรนต์ของสมาชิกที่ถูกคำนวณ (member_expression ) , หรือ NULL "Sibling" เป็นชื่อเฉพาะของสมาชิกที่สัมพันธ์กับตำแหน่งของ "member_expression" หรือ NULL "Position" เป็นค่าของ BEFORE หรือ AFTER ถ้าไม่ได้ระบุ "position" ค่าดีฟอลต์จะเป็น AFTER prevMember ( member ) ส่งคืนสมาชิกที่มาก่อน "member" ทันทีในระดับเดียวกัน ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Sales Growth Year Over Year ในแพ็กเกจ GO Data Warehouse (analysis) ตัวอย่าง: prevMember ( [Outdoor Protection] ) ผลลัพธ์: Personal Accessories ตัวอย่าง: prevMember ( [2005] ) ผลลัพธ์: 2004 roleValue ( string [ , member|set_expression ] ) ส่งคืนค่าของแอ็ตทริบิวต์ที่เชื่อมโยงกับบทบาทที่ระบุชื่อโดย "string" ภายในบริบทที่ระบุ "Member" หรือ "set_expression" เป็นอ็อพชันเฉพาะในจำนวนของสถานการณ์ที่จำกัด ที่สามารถได้รับมาจากบริบทอื่น แอ็พพลิเคชันสามารถทำให้สามารถใช้ได้กับแหล่งข้อมูลหรือโมเดลอื่นโดยการเข้าถึงแอ็ตทริบิวต์โดยใช้บทบาทแทนที่ใช้ ID ไอเท็มเคียวรี บทบาท Intrinsic ที่กำหนดไว้สำหรับสมาชิกของชนิดแหล่งข้อมูลทั้งหมดรวมถึง: '_businessKey', '_memberCaption', '_memberDescription', '_memberUniqueName' สำหรับแหล่งข้อมูลแบบ Online Analytical Processing(OLAP) สามารถเข้าถึงได้เฉพาะบทบาทที่แท้จริงโดยอ็อบเจ็กต์ที่ขยายหลายระดับ สำหรับแหล่งข้อมูลแบบ dimensionally-modeled relational (DMR) การกำหนดบทบาทเป็นหน้าที่ของ modeler บทบาทเพิ่มเติมสามารถกำหนดไว้ใน Framework Manager สำหรับแต่ละระดับในลำดับชั้น ตัวอย่างเช่น ระดับชนิดผลิตภัณฑ์ อาจมีคอลัมน์แอ็ตทริบิวต์ที่เรียกว่า "Type Shipping Container" และระดับผลิตภัณฑ์อาจมีแอ็ตทริบิวต์ "Product Shipping Container" แต่ละอ็อบเจกต์เหล่านี้อาจได้รับมอบหมายบทบาทแบบกำหนดเองที่เรียกว่า "Container" ใน Framework Manager จากนั้นคุณสมบัติสามารถถูกอ้างถึงได้อย่างอิสระโดยชื่อคอลัมน์ที่แท้จริงโดยใช้ฟังก์ชัน roleValue ตัวอย่าง: roleValue ( '_memberCaption' , [Sales].[Product].[Product].[Product line] -> [all].[1] ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: roleValue ( '_businessKey' , [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนค่าของแอ็ตทริบิวต์ที่เชื่อมโยงกับบทบาทคีย์ทางธุรกิจ ("2004-01-01","2004-12-31") ("2005-01-01","2005-12-31") ("2006-01-01","2006-12-31") ตัวอย่าง: roleValue ( '_memberUniqueName' , [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนค่าของแอ็ตทริบิวต์ที่เชื่อมโยงกับบทบาท MUN [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ->:[PC].[Years (Root)].[20040101-20041231] [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ->:[PC].[Years (Root)].[20050101-20051231] [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ->:[PC].[Years (Root)].[20060101-20061231] rootMember ( hierarchy ) ส่งคืนสมาชิก root ของลำดับชั้นที่มี root เดียว ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Promotion Success ในแพ็กเกจ GO Data Warehouse (analysis) rootMembers ( hierarchy ) ส่งคืนสมาชิก root ของลำดับชั้น ตัวอย่าง: rootMembers ( [great_outdoors_company].[Years].[Years] ) ผลลัพธ์: By Time value ( tuple ) ส่งคืนค่าของเซลล์ที่ระบุโดย "tuple" โปรดสังเกตว่าสมาชิกดีฟอลต์ของมิติ Measures คือ Default Measure ตัวอย่าง: value ( tuple ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] ->:[PC].[Years (Root)].[20040101-20041231] , [great_outdoors_company].[Measures].[Revenue] ) ) ผลลัพธ์: $34,750,563.50 ตัวอย่าง: value ( tuple ( [2004] , [Camping Equipment] , [Revenue] ) ) ผลลัพธ์: $20,471,328.88 descendants ( member|set_expression , level|distance [ , { self|before|beforewithmember|after } ] ) ส่งคืนชุดของลูกๆ ของ "member" หรือ "set_expression" ที่ "level" (ชื่อที่ได้รับการรับรอง) หรือ "distance" (จำนวนเต็ม 0..n) จาก root สามารถระบุหลายอ็อพชัน (คั่นด้วยช่องว่าง) เพื่อกำหนดสมาชิกที่จะส่งคืน self: เฉพาะสมาชิกที่อยู่ในระดับที่ระบุจะถูกรวมในชุดสุดท้าย (นี่เป็นลักษณะการทำงานดีฟอลต์ถ้าไม่ได้ระบุอ็อพชันใดๆ) before: ถ้ามีระดับที่อยู่ตรงกลางระหว่างระดับของสมาชิกและระดับที่ระบุไว้ จะรวมสมาชิกจากระดับเหล่านั้น ถ้าระดับที่ระบุเป็นระดับเดียวกับสามารถที่ใช้ฟังก์ชัน สมาชิกจะถูกรวมในชุดสุดท้าย beforewithmember: ถ้ามีระดับที่อยู่ตรงกลางระหว่างระดับของสมาชิกและระดับที่ระบุไว้ จะรวมสมาชิกจากระดับเหล่านั้น สมาชิกที่ใช้ฟังก์ชันจะถูกรวมในชุดสุดท้ายด้วย after: ถ้ามีระดับอื่นหลังจากระดับที่ระบุ สมาชิกจากระดับเหล่านั้นจะถูกรวมในชุดสุดท้าย ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Sales Commissions for Central Europe ในแพ็กเกจ GO Data Warehouse (analysis) ตัวอย่าง: descendants ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Products] , [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product type] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชุดของลูกๆ ของชุดของ Products ที่ระดับชนิด Product หมายเหตุ: [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Products] เป็นสมาชิก root ของลำดับชั้นของ Products Cooking Gear Sleeping Bags Packs Tents ... Eyewear Knives Watches ตัวอย่าง: descendants ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Products] , 1 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชุดของลูกๆ ของชุดของ Products ที่ระดับแรก Camping Equipment Golf Equipment Mountaineering Equipment Outdoor Protection Personal Accessories ตัวอย่าง: descendants ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Products] , 3 , before ) ผลลัพธ์: ส่งคืนลูกๆ ของชุดของ Products ก่อนระดับที่สาม Camping Equipment Cooking Gear Sleeping Bags Packs Tents ... Eyewear Knives Watches ตัวอย่าง: descendants ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Products] , 2 , self before ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชุดของลูกๆ ของชุดของ Products set ก่อนและรวมถึงระดับที่สอง Camping Equipment Cooking Gear Sleeping Bags Packs Tents ... Eyewear Knives Watches except ( set_expression1 , set_expression2 [ , all ] ) ส่งคืนสมาชิกของ "set_expression1" ที่ไม่อยู่ใน "set_expression2" รายการที่ซ้ำกันจะคงไว้เฉพาะเมื่อระบุคีย์เวิร์ดที่เป็นอ็อพชัน "all" เป็นอาร์กิวเมนต์ที่สาม ตัวอย่าง: except ( set ( [Camping Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) , set ( [Camping Equipment] , [Golf Equipment] ) ) ผลลัพธ์: Mountaineering Equipment filter ( set_expression , Boolean_expression ) ส่งคืนชุดของผลลัพธ์จากการกรองชุดที่ระบุโดยใช้เงื่อนไขบูลีน แต่ละสมาชิกจะถูกรวมในผลลัพธ์ถ้าและเฉพาะถ้าค่าที่สอดคล้องของ "Boolean_expression" เป็น true ตัวอย่าง: filter ( [Product line] , [Gross margin] > .30 ) ผลลัพธ์: Mountaineering Equipment intersect ( set_expression1 , set_expression2 [ , all ] ) ส่งคืนการตัดกันของ "set_expression1" และ "set_expression2" ผลลัพธ์จะคงรายการที่ซ้ำกันไว้เฉพาะเมื่อระบุคีย์เวิร์ดที่เป็นอ็อพชัน "all" เป็นอาร์กิวเมนต์ที่สาม ตัวอย่าง: intersect ( set ( [Camping Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) , set ( [Camping Equipment] , [Outdoor Protection] , ) , all ) ผลลัพธ์: Camping Equipment lastPeriods ( integer_expression , member ) ส่งคืนชุดของสมาชิกจากระดับเดียวกันที่ลงท้ายด้วย "member" จำนวนของสมาชิกที่ส่งคืนค่าสัมบูรณ์ของ "integer_expression" ถ้า "integer_expression" เป็นลบ จะส่งคืนสมาชิกต่อไปนี้และรวมสมาชิกที่ระบุ โดยทั่วไปใช้กับมิติเวลา ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Rolling and Moving Averages แบบมีการโต้ตอบ ตัวอย่าง: lastPeriods ( 2 , [2006 Q 4] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสองสมาชิกสุดท้ายจากระดับที่ลงท้ายด้วย 2006 Q 4 2006 Q 3 2006 Q 4 ตัวอย่าง: lastPeriods ( -3 , [2006 Q 4] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกสามรายการสุดท้ายจากระดับที่ขึ้นต้นด้วย 2006 Q 4 2006 Q 4 2007 Q 1 2007 Q 2 periodsToDate ( level , member ) ส่งคืนชุดของสมาชิก sibling จากระดับเดียวกันกับ "member" ตามที่ระบุโดย "level" ซึ่งจะวาง ancestor ของ "member" ที่ "level" และส่งคืนลูกๆ ของ ancestor ที่ระดับเดียวกันกับ "member" (จนถึงและรวมถึง "member") โดยทั่วไปใช้กับมิติเวลา ฟังก์ชันนี้จะปรากฏในรายงานตัวอย่าง Rolling and Moving Averages แบบมีการโต้ตอบ ตัวอย่าง: periodsToDate ( [great_outdoors_company].[Years].[Years].[Year] , [2004/Mar] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนค่าสำหรับ [2004/Jan], [2004/Feb], [2004/Mar] topCount ( set_expression , index_expression , numeric_expression ) เรียงลำดับชุดตามค่าของ "numeric_expression" ที่ถูกประเมินที่แต่ละสมาชิกของ "set_expression" และส่งคืนสมาชิก "index_expression" บนสุด ตัวอย่าง: topCount ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] , 2 , [Revenue] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนรายรับสองรายการสูงสุดดสำหรับชุดของ Product line Prod line Revenue ----------- ---------- Camping $89,713,990.92 Personal $31,894,465.86 bottomCount ( set_expression , index_expression , numeric_expression ) เรียงลำดับชุดตามค่าของ "numeric_expression" ที่ถูกประเมินที่แต่ละสมาชิกของ "set_expression" และส่งคืนสมาชิก "index_expression" ด้านล่าง ตัวอย่าง: bottomCount ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] , 2 , [Revenue] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกสองรายการด้านล่างของชุดที่เรียงลำดับโดยรายรับ Prod line Revenue ----------- ----------- Camping $3,171,114.92 Personal $20,891,350.60 topPercent ( set_expression , percentage , numeric_expression2 ) เรียงลำดับชุดที่ระบุไว้ใน "set_expression" จากมากไปหาน้อยและส่งคืนอิลิเมนต์ที่อยู่บนสุดจากชุดที่ถูกเรียงลำดับที่มีเปอร์เซ็นต์สะสมของยอดรวมมากกว่าหรือเท่ากับ "percentage" ตัวอย่าง: topPercent ( set ( [Camping Equipment] , [Golf Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) , 40 , [2006] ) ผลลัพธ์: สำหรับชุดของ Camping Equipment, Golf Equipment และ Mountaineering Equipment จะส่งคืนสมาชิกที่มี Gross profit มากที่สุดที่มียอดรวมของปี 2006 อย่างน้อย 40% ของยอดรวมทั้งหมด bottomPercent ( set_expression , percentage , numeric_expression ) เรียงลำดับชุดที่ระบุไว้ใน "set_expression" จากน้อยไปหามากและส่งคืนอิลิเมนต์ที่อยู่บนล่างจากชุดที่ถูกเรียงลำดับที่มีเปอร์เซ็นต์สะสมของยอดรวมมากกว่าหรือเท่ากับ "percentage" ตัวอย่าง: bottomPercent ( set ( [Camping Equipment] , [Golf Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) , 40 , [2006] ) ผลลัพธ์: สำหรับชุดของ Camping Equipment, Golf Equipment และ Mountaineering Equipment จะส่งคืนสมาชิกที่มี Gross profit น้อยที่สุดที่มียอดรวมของปี 2006 อย่างน้อย 40% ของยอดรวมทั้งหมด topSum ( set_expression , value , numeric_expression2 ) เรียงลำดับชุดที่ระบุไว้ใน "set_expression" จากมากไปหาน้อยและส่งคืนอิลิเมนต์ที่อยู่บนสุดจากชุดที่ถูกเรียงลำดับที่มียอดรวมสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ "value" ตัวอย่าง: topSum ( children ( [Products] ) , 16000000 , tuple ( [2006] , [great_outdoors_company].[Measures].[Gross profit] ) ) ผลลัพธ์: สำหรับสมาชิก Product line จะส่งคืนสมาชิกที่มี Gross profit ที่มากที่สุดที่มียอดรวมสำหรับปี 2006 อย่างน้อย $6,000,000 bottomSum ( set_expression , value , numeric_expression ) เรียงลำดับชุดที่ระบุไว้ใน "set_expression" จากมากไปหาน้อยและส่งคืนอิลิเมนต์ที่อยู่ล่างสุดจากชุดที่ถูกเรียงลำดับที่มียอดรวมสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ "value" ตัวอย่าง: bottomSum ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) , 6000000 , tuple ( [2006] , [great_outdoors_company].[Measures].[Gross profit] ) ) ผลลัพธ์: สำหรับสมาชิก Product line จะส่งคืนสมาชิกที่มี Gross profit ที่น้อยที่สุดที่มียอดรวมสำหรับปี 2006 อย่างน้อย $6,000,000 union ( set_expression1 , set_expression2 [ , all ] ) ส่งคืนข้อมูลสำหรับ "set_expression1" และ "set_expression2" ผลลัพธ์จะคงรายการที่ซ้ำกันไว้เฉพาะเมื่อระบุคีย์เวิร์ดที่เป็นอ็อพชัน "all" เป็นอาร์กิวเมนต์ที่สาม ตัวอย่าง: union ( set ( [Camping Equipment] , [Golf Equipment] ) , set ( [Golf Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) ) ผลลัพธ์: ส่งคืนข้อมูลสำหรับทั้งสองชุดเป็นชุดใหม่ชุดเดียว โดยแสดงคอลัมน์ Golf Equipment เพียงครั้งเดียว ตัวอย่าง: union ( set ( [Camping Equipment] , [Golf Equipment] ) , set ( [Golf Equipment] , [Mountaineering Equipment] ) , all ) ผลลัพธ์: ส่งคืนข้อมูลสำหรับทั้งสองชุดเป็นชุดใหม่ชุดเดียว โดยแสดงคอลัมน์ Golf Equipment สองครั้ง ancestors ( member , level|index ) ส่งคืน ancestors ทั้งหมดของ "member" ที่ "level" หรือ "index" ที่มีระยะห่างจากสมาชิก (แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่สนับสนุนเพียง ancestor เดียวที่ระดับที่ระบุ ถ้าแหล่งข้อมูลสนับสนุนมากกว่าหนึ่ง ancestor ผลลัพธ์จะเป็นชุดของสมาชิก) ตัวอย่าง: ancestors ( [TrailChef Water Bag] , 1 ) ผลลัพธ์: Cooking Gear ตัวอย่าง: ancestors ( [TrailChef Water Bag] , 2 ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: ancestors ( [TrailChef Water Bag] , [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product type] ) ผลลัพธ์: Cooking Gear generate ( set_expression1 , set_expression2 [ , all ] ) ประเมิน "set_expression2" สำหรับแต่ละสมาชิกของ "set_expression1" และรวมชุดที่เป็นผลลัพธ์โดยยูเนียน ผลลัพธ์จะคงรายการที่ซ้ำกันไว้เฉพาะเมื่อระบุคีย์เวิร์ดที่เป็นอ็อพชัน "all" เป็นอาร์กิวเมนต์ที่สาม ตัวอย่าง: generate ( [Product line] , topCount ( descendants ( currentMember ( [great_outdoors_company].[Products].[Products] ) , [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product name] ) , 2 , [Revenue] ) ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสองผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนสุดโดยรายรับสำหรับสำหรับสายผลิตภัณฑ์ head ( set_expression [ , index_expression ] ) ส่งคืนอิลิเมนต์ "index_expression" แรกของ "set_expression" ค่าดีฟอลต์สำหรับ "index_expression" คือ 1 ตัวอย่าง: head ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ) ผลลัพธ์: Camping Equipment ตัวอย่าง: head ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) , 2 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสองสมาชิกที่อยู่บนสุดของชุดของ Product Camping Equipment Mountaineering Equipment hierarchize ( set_expression ) เรียงลำดับของ "set_expression" ในลำดับชั้น สมาชิกในระดับจะถูกเรียงลำดับตามลำดับที่เป็นธรรมชาติ นี่เป็นการเรียงลำดับดีฟอลต์ของสมาชิกตามมิติเมื่อไม่ได้ระบุเงื่อนไขการเรียงลำดับอย่างอื่น ตัวอย่าง: hierarchize ( set ( [Golf Equipment] , [Mountaineering Equipment] , [Camping Equipment] ) ) ผลลัพธ์: ส่งคืน Camping Equipment, Golf Equipment, Mountaineering Equipment mtd ( [ member ] ) ส่งคืนชุดของสมาชิก sibling จากระดับเดียวกันกับ "member" ที่เริ่มต้นด้วย sibling แรกและลงท้ายด้วย "member" ตามที่กำหนดโดยระดับเดือนในมิติเวลา ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิก ค่าดีฟอลต์จะเป็น currentMember ของมิติเวลา order ( set_expression , value_expression [ , ASC|DESC|BASC|BDESC ] ) จัดเรียงสมาชิกของ "set_expression" ตาม "value_expression" และพารามิเตอร์ตัวที่สาม ASC และ DESC เรียงลำดับสมาชิกจากน้อยไปหามากและมากไปหาน้อยตามลำดับ ตามตำแหน่งในลำดับชั้นของชุด จากนั้น ลูกๆ ของแต่ละสมาชิกจะถูกจัดเรียงตาม "value_expression" BASC และ BDESC จะจัดเรียงสมาชิกในชุดโดยไม่คำนึงถึงลำดับชั้น ถ้าไม่มีข้อมูลจำเพาะที่ชัดเจน ค่าดีฟอลต์จะเป็น ASC ตัวอย่าง: order ( members ( [Great Outdoors Company].[Product].[Product].[Product type] ) , [Quantity sold] , BASC ) ผลลัพธ์: ส่งคืนปริมาณการขายสำหรับแต่ละชนิดผลิตภัณฑ์โดยไม่มีลำดับที่เฉพาะเจาะจง ProdLine Quantity ------------ ------------- Woods 13,924 Irons 14,244 Safety 22,332 ... ... Sun 215,432 Repellent 270,04 Lanterns 345,096 ตัวอย่าง: order ( members ( [Great Outdoors Company].[Product].[Product].[Product type] ) , [Quantity sold] , ASC ) zesult: Returns the quantity sold for each product type in ascending order. ProdLine Quantity ------------ ------------- Woods 13,924 Irons 14,244 Putters 23,244 ... ... Tents 130,664 Cooking 198,676 Lanterns 345,096 qtd ( [ member] ) ส่งคืนชุดของสมาชิก sibling จากระดับเดียวกันกับ "member" ที่เริ่มต้นด้วย sibling แรกและลงท้ายด้วย "member" ตามที่กำหนดโดยระดับไตรมาสในมิติเวลา ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิก ค่าดีฟอลต์จะเป็น currentMember ของมิติเวลา set ( member { , member } ) ส่งคืนรายการของสมาชิกที่กำหนดไว่ในนิพจน์ สมาชิกต้องเป็นสมาชิกของลำดับชั้นเดียวกัน ตัวอย่าง: set ( [Golf Equipment] , [Irons] , [TrailChef Cup] ) ผลลัพธ์: ส่งคืน Golf Equipment, Irons และ TrailChef Cup siblings ( member ) ส่งคืนลูกๆ ของพาเรนต์ของสมาชิกที่ระบุ ตัวอย่าง: siblings ( [Golf Equipment] ) ผลลัพธ์: ส่งคืน siblings ของ Golf Equipment Camping Equipment Golf Equipment Mountaineering Equipment Outdoor Protection Personal Accessories subset ( set_expression, index_expression1 [ , index_expression2 ] ) ส่งคืนชุดย่อยของสมาชิกใน "set_expression" เริ่มต้นที่ "index_expression1" จากจุดเริ่มต้น ถ้าระบุจำนวน "index_expression2" ที่จะส่งคืนหลายสมาชิก (ถ้ามี) ไม่เช่นนั้น จะส่งคืนสมาชิกที่เหลือทั้งหมด ตัวอย่าง: subset ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) , 2 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกของชุดของ Product line ที่เริ่มต้นที่สมาชิกที่สอง Mountaineering Equipment Outdoor Protection Personal Accessories ตัวอย่าง: subset ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) , 2 , 2 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสองสมาชิกของชุดของ Product line ที่เริ่มต้นด้วยสมาชิกที่สอง Mountaineering Equipment Outdoor Protection tail ( set_expression [ , index_expression ] ) ส่งคืนอิลิเมนต์ "index_expression" สุดท้ายของ "set expression" ค่าดีฟอลต์สำหรับ "index_expression" คือ 1 ตัวอย่าง: tail (members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกสุดท้ายของชุดของ Product line Personal Accessories ตัวอย่าง: tail ( members ( [great_outdoors_company].[Products].[Products].[Product line] ) , 2 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนสมาชิกสองรายการสุดท้ายของชุดของ Product line Outdoor Protection Personal Accessories tuple ( member { , member } ) ระบุตำแหน่งเซลล์ (การตัดกัน) โดยยึดตามสมาชิกที่ระบุ ที่ต้องมาจากมิติที่ต่างกัน ฟังก์ชันนี้จะรวมสมาชิกปัจจุบันจากทุกมิติที่ไม่ระบุเป็นอย่างอื่นในอาร์กิวเมนต์ สมาชิกปัจจุบันของมิติใดๆ ที่ไม่ได้ระบุในบริบทที่ประเมินจะถือว่าเป็นสมาชิกดีฟอลต์ของมิตินั้น ค่าของเซลล์นี้สามารถได้รับโดยใช้ฟังก์ชัน "value" ตัวอย่าง: tuple ( [Mountaineering Equipment] , [Fax] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนยอดขาย Mountaineering Equipment โดยโทรสาร wtd ( [member] ) ส่งคืนชุดของสมาชิก sibling จากระดับเดียวกันกับ "member" ที่เริ่มต้นด้วย sibling แรกและลงท้ายด้วย "member" ตามที่กำหนดโดยระดับสัปดาห์ในมิติเวลา ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิก ค่าดีฟอลต์จะเป็น currentMember ของมิติเวลา ytd ( [member] ) ส่งคืนชุดของสมาชิก sibling จากระดับเดียวกันกับ "member" ที่เริ่มต้นด้วย sibling แรกและลงท้ายด้วย "member" ตามที่กำหนดโดยระดับปีในมิติเวลา ถ้าไม่ได้ระบุสมาชิก ค่าดีฟอลต์จะเป็น currentMember ของมิติเวลา