Informix cardinality ( string_expression ) ส่งคืนจำนวนของอิลิเมนต์ในคอลัมน์คอลเล็กชัน (SET, MULTISET, LIST) char_length ( string_expression ) ส่งคืนจำนวนของอักขระแบบโลจิคัลใน "string_expression" จำนวนของอักขระแบบโลจิคัลสามารถต่างจากจำนวนของไบต์ในบางโลแคล East Asian concat ( string_expression1 , string_expression2 ) ส่งคืนสตริงที่เป็นผลลัพธ์ของการรวม "string_expression1" กับ "string_expression2" ตัวอย่าง: concat ( [Sales (query)].[Sales staff].[First name], [Sales (query)].[Sales staff].[Last name] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนชื่อและนามสกุล เช่น Bob Smith date ( string_expression|date_expression|integer_expression ) ส่งคืนค่าวันที่ของ "string_expression", "date_expression" หรือ "integer_expression" day ( date_expression ) ส่งคืนจำนวนเต็มที่แทนวันของเดือน (1-31) extend ( date_expression , ' { ' year to second ' } ' ) ปรับความแม่นยำของนิพจน์วันที่เวลาหรือวันที่ นิพจน์ไม่สามารถเป็นที่อยู่ในเครื่องหมายที่แทนค่าวันที่ ถ้าคุณไม่ได้ระบุ qualifier ตัวแรกและตัวสุดท้าย qualifiers ดีฟอลต์จะเป็น year to fraction (3) ถ้านิพจน์มีฟิลด์ที่ไม่ได้ระบุโดย qualifiers ฟิลด์ที่ไม่ต้องการจะถูกลบทิ้ง ถ้า qualifier แรกระบุฟิลด์ (ที่ชัดเจนกว่า) ใหญ่กว่าที่มีอยู่ในนิพจน์ ฟิลด์ใหม่จะถูกเติมด้วยค่าที่ส่งคืนโดยฟังก์ชันปัจจุบัน ถ้า qualifier แรกระบุฟิลด์ (ที่ชัดเจนกว่า) เล็กกว่าที่มีอยู่ในนิพจน์ ฟิลด์ใหม่จะถูกเติมด้วยค่าคงที่ ฟิลด์เดือนหรือวันที่หายไปถูกเติมด้วย 1 และฟิลด์ hour to fraction ที่หายไปถูกเติมด้วย 0 ตัวอย่าง: extend ( some_date_column , { year to second } ) hex ( integer_expression ) ส่งคืนการเข้ารหัสเลขฐานสิบหกของ "integer_expression" initcap ( string_expression ) ส่งคืน "string_expression" ที่มีอักขระแรกของแต่ละคำที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่และตัวอักษรอื่นทั้งหมดเป็นตัวพิมพ์เล็ก คำที่เริ่มต้นหลังจากอักขระใดๆ อักขระอื่นที่ไม่ใช้ตัวอักษร ดังนั้น นอกจากช่องว่างแล้ว สัญลักษณ์เช่น เครื่องหมายคอมมา จุด และโคลอนสามารถใช้ในคำใหม่ได้ length ( string_expression ) ส่งคืนจำนวนไบต์ใน "string_expression" ที่ไม่รวมช่องว่างใดๆ ที่ต่อท้าย สำหรับไบต์หรือข้อความ "string_expression" ความยาวจะส่งคืนจำนวนทั้งหมดของไบต์ รวมถึงช่องว่างที่ต่อท้าย lpad ( string_expression1 , integer_expression , string_expression2 ) ส่งคืน "string_expression1" ที่ต่อด้านซ้ายด้วย "string_expression2" ถึงจำนวนทั้งหมดของอักขระที่ระบุโดย "integer_expression" ลำดับของ "string_expression2" จะปรากฏหลายครั้งเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ส่งคืนสตริงที่มีควายาวที่ระบุโดย "integer_expression" mdy ( integer_expression1 , integer_expression2 , integer_expression3 ) ส่งคืนชนิดค่าวันที่ที่มีสามนิพจน์ที่ประเมินเป็นจำนวนเต็มที่แทน month (integer_expression1), day (integer_expression2) และ year (integer_expression3) month ( date_expression ) ส่งคืนจำนวนเต็มที่สอดคล้องกับส่วนของเดือนของ "date_expression" nvl ( expression1 , expression2 ) ส่งคืนค่าของ "expression1" ถ้า "expression1" ไม่ใช่ NULL ถ้า "expression1" เป็น NULL ดังนั้นจะส่งคืนค่าของ "expression2" ตัวอย่าง: nvl ( [Unit sale price] , [Unit price] ) ผลลัพธ์: ส่งคืนราคาขายต่อหน่วย หรือส่งคือราคาต่อหน่วย ถ้าราคาขายต่อหน่วยเป็น NULL octet_length ( string_expression ) ส่งคืนจำนวนของไบต์ใน "string_expression" รวมถึงช่องว่างที่ต่อท้าย replace ( string_expression1 , string_expression2 [ , string_expression3 ] ) ส่งคืน "string_expression1" ที่ "string_expression2" ที่ปรากฏทุกครั้งถูกแทนด้วย "string_expression3" ถ้าคุณตัดอ็อพชัน "string_expression3" ออก ดังนั้น "string_expression2" ที่ปรากฏทุกครั้งจะถูกตัดออกจากสตริงที่ส่งคืน ตัวอย่าง: replace ( [Sales (query)].[Products].[Product line code] , - ) ผลลัพธ์: ส่งคืนรหัสสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ไม่มีอักขระ "-" round ( numeric_expression [ , integer_expression ] ) ส่งคืนค่าที่ถูกปัดเศษของ "numeric_expression" ถ้าคุณตัด "integer_expression" ออก ค่าจะถูกปัดเป็นศูนย์หลักหรือตำแหน่งหน่วย ช่วงของหลักที่เป็น 32 (+ และ -) หมายถึงทั้งค่าเลขทศนิยม การปัดเศษจะเกิดขึ้นก่อนการใช้การจัดรูปแบบข้อมูล ตัวอย่าง: round (125, -1) ผลลัพธ์: 130 rpad ( string_expression1 , integer_expression , string_expression2 ) ส่งคืน "string_expression1" ที่ต่อด้านขวาด้วย "string_expression2" ถึงจำนวนทั้งหมดของอักขระที่ระบุโดย "integer_expression" ลำดับของ "string_expression2" จะปรากฏหลายครั้งเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ส่งคืนสตริงที่มีควายาวที่ระบุโดย "integer_expression" substr ( string_expression , integer_expression1 [ , integer_expression2 ] ) ส่งคืนสตริงย่อยของ "string_expression" ที่เริ่มต้นที่ตำแหน่ง "integer_expression1" สำหรับ "integer_expression2" อักขระ อักขระแรกใน "string_expression" อยู่ที่ตำแหน่ง 1 ถ้าคุณตัด "integer_expression2" ออก จะส่งคืนสตริงย่อยของ "string_expression" ที่เริ่มต้นที่ตำแหน่ง "integer_expression1" และสิ้นสุดที่ท้ายของ "string_expression" ตัวอย่าง: substr ( [Sales (query)].[Sales staff].[Position code], 3 , 5 ) ผลลัพธ์: ส่งคืนอักขระ 3 ถึง 7 ของรหัสตำแหน่ง to_char ( date_expression [ , string_expression ] ) ส่งคืนสตริงอักขระ "date_expression" ที่มีรูปแบบ "string_expression" ที่ระบุ คุณสามารถใช้ฟังก์ชันนี้เฉพาะกับชนิดข้อมูลที่มีอยู่แล้วภายใน to_date ( string_expression1 , string_expression2 ) ส่งคืน "string_expression1" เป็นวันที่ตามรูปแบบวันที่ที่คุณระบุใน "string_expression2" ถ้า "string_expression1" เป็น NULL ดังนั้นจะส่งคืนค่า NULL weekday ( date_expression ) ส่งคืนจำนวนเต็มที่แทนวันของส ศูนย์ (0) แทน Sunday หนึ่ง (1) แทน Monday เป็นต้น year ( date_expression ) ส่งคืนจำนวนเต็มสี่หลักที่แทนปีของ "date_expression"