rs_props_th.xml 223 KB

123456789101112131415161718192021222324252627282930313233343536373839404142434445464748495051525354555657585960616263646566676869707172737475767778798081828384858687888990919293949596979899100101102103104105106107108109110111112113114115116117118119120121122123124125126127128129130131132133134135136137138139140141142143144145146147148149150151152153154155156157158159160161162163164165166167168169170171172173174175176177178179180181182183184185186187188189190191192193194195196197198199200201202203204205206207208209210211212213214215216217218219220221222223224225226227228229230231232233234235236237238239240241242243244245246247248249250251252253254255256257258259260261262263264265266267268269270271272273274275276277278279280281282283284285286287288289290291292293294295296297298299300301302303304305306307308309310311312313314315316317318319320321322323324325326327328329330331332333334335336337338339340341342343344345346347348349350351352353354355356357358359360361362363364365366367368369370371372373374375376377378379380381382383384385386387388389390391392393394395396397398399400401402403404405406407408409410411412413414415416417418419420421422423424425426427428429430431432433434435436437438439440441442443444445446447448449450451452453454455456457458459460461462463464465466467468469470471472473474475476477478479480481482483484485486487488489490491492493494495496497498499500501502503504505506507508509510511512513514515516517518519520521522523524525526527528529530531532533534535536537538539540541542543544545546547548549550551552553554555556557558559560561562563564565566567568569570571572573574575576577578579580581582583584585586587588589590591592593594595596597598599600601602603604605606607608609610611612613614615616617618619620621622623624625626627628629630631632633634635636637638639640641642643644645646647648649650651652653654655656657658659660661662663664665666667668669670671672673674675676677678679680681682683684685686687688689690691692693694695696697698699700701702703704705706707708709710711712713714715716717718719720721722723724725726727728729730731732733734735736737738739740741742743
  1. <stringTable usage="Uses CCLMessageFile.xsd">
  2. <component name="RS">
  3. <section name="Mn">
  4. <string id="styleVariable">ระบุตัวแปรตามอ็อบเจ็กต์ที่สามารถกำหนดลักษณะแบบมีเงื่อนไข</string>
  5. <string id="conditionalRender">ระบุตัวแปรตามอ็อบเจ็กต์ที่สามารถแสดงผลแบบมีเงื่อนไข</string>
  6. <string id="blockVariable">ระบุตัวแปรตามบล็อกที่สามารถแสดงผลแบบมีเงื่อนไข</string>
  7. <string id="currentBlock">ระบุบล็อกที่สามารถถูกเขียนในปัจจุบัน</string>
  8. <string id="sourceText_conditional">ระบุตัวแปรตามซอร์สข้อความที่สามารถเลือกได้</string>
  9. <string id="sourceHtml_conditional">ระบุตัวแปรตามซอร์ส HTML ที่สามารถเลือกได้</string>
  10. <string id="sourceUrl_conditional">ระบุตัวแปรตามซอร์ส URL ที่สามารถเลือกได้</string>
  11. <string id="conditionalStyle">ระบุเงื่อนไขและลักษณะที่ใช้เพื่อกำหนดลักษณะอ็อบเจ็กต์</string>
  12. <string id="noDataHandler">ระบุสิ่งที่ปรากฎในคอนเทนเนอร์ข้อมูลเมื่อไม่มีข้อมูลจากฐานข้อมูล เมื่อตั้งค่าเป็น No Content จะแสดงคอนเทนเนอร์ข้อมูลว่าง เช่น รายการว่าง เมื่อตั้งค่าเป็น Content ที่ระบุในแท็บ No data จะแสดงเนื้อหาที่คุณระบุในแท็บ No data คุณสามารถแทรกอ็อบเจ็กต์ใด ๆ จากแท็บ กล่องเครื่องมือ เมื่อตั้งค่าเป็น Specified text (ดีฟอลต์) จะแสดงข้อความที่คุณระบุ</string>
  13. <string id="sourceText_type">ระบุชนิดของซอร์สของข้อความ</string>
  14. <string id="sourceText_text">ระบุข้อความสแตติกที่ต้องการแสดง</string>
  15. <string id="sourceText_dataItemValue">ระบุค่าไอเท็มข้อมูลที่กำหนดข้อความที่ต้องการแสดง</string>
  16. <string id="sourceText_dataItemLabel">ระบุเลเบลไอเท็มข้อมูลที่กำหนดข้อความที่ต้องการแสดง</string>
  17. <string id="sourceText_reportexpr">ระบุนิพจน์รายงานที่กำหนดข้อความที่ต้องการแสดง</string>
  18. <string id="sourceHtml_type">ระบุชนิดของซอร์สของข้อความ HTML</string>
  19. <string id="sourceHtml_html">ระบุข้อความสแตติกที่ใช้เป็น HTML</string>
  20. <string id="sourceHtml_dataItemValue">ระบุค่าไอเท็มข้อมูลที่กำหนด HTML ที่ต้องการแสดง</string>
  21. <string id="sourceHtml_dataItemLabel">ระบุเลเบลไอเท็มข้อมูลที่กำหนด HTML ที่ต้องการแสดง</string>
  22. <string id="sourceHtml_reportexpr">ระบุนิพจน์รายงานที่ใช้เพื่อกำหนด HTML ที่ต้องการแสดง</string>
  23. <string id="sourceUrl_type">ระบุชนิดของซอร์สของ URL</string>
  24. <string id="sourceUrl_url">ระบุ URL โดยใช้ข้อความสแตติก</string>
  25. <string id="sourceUrl_imgUrl">ระบุ URL โดยใช้ข้อความสแตติก</string>
  26. <string id="sourceUrl_dataItemValue">ระบุค่าไอเท็มข้อมูลที่กำหนด URL</string>
  27. <string id="sourceUrl_dataItemLabel">ระบุไอเท็มเลเบลข้อมูลที่กำหนด URL</string>
  28. <string id="sourceUrl_reportexpr">ระบุนิพจน์รายงานที่กำหนด URL</string>
  29. <string id="sourceBookmark_type">ระบุชนิดของซอร์สของบุ๊กมาร์ก</string>
  30. <string id="sourceBookmark_label">ระบุข้อความสแตติกที่กำหนดบุ๊กมาร์ก ค่าที่ใช้เป็นการอ้างอิงบุ๊กมาร์กต้องตรงกับค่านี้</string>
  31. <string id="sourceBookmark_dataItemValue">ระบุค่าไอเท็มข้อมูลที่กำหนดบุ๊กมาร์ก ค่าที่ใช้เป็นการอ้างอิงบุ๊กมาร์กต้องตรงกับค่านี้</string>
  32. <string id="sourceBookmark_dataItemLabel">ระบุไอเท็มเลเบลข้อมูลที่กำหนดบุ๊กมาร์ก ค่าที่ใช้เป็นการอ้างอิงบุ๊กมาร์กต้องตรงกับค่านี้</string>
  33. <string id="sourceBookmark_reportexpr">ระบุนิพจน์รายงานที่กำหนดบุ๊กมาร์ก ค่าที่ใช้เป็นการอ้างอิงบุ๊กมาร์กต้องตรงกับค่านี้</string>
  34. <string id="numericPosition_type">ระบุชนิดของซอร์สสำหรับตำแหน่งที่เป็นตัวเลข</string>
  35. <string id="numericPosition_number">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขโดยใช้ตัวเลข</string>
  36. <string id="numericPosition_dataItemValue">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขโดยใช้ค่าไอเท็มข้อมูล</string>
  37. <string id="numericPosition_reportexpr">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขโดยใช้นิพจน์รายงาน</string>
  38. <string id="memberPosition_reportexpr">ระบุนิพจน์รายงานสำหรับตำแหน่งที่เป็นตัวเลข</string>
  39. <string id="format">ระบุรูปแบบข้อมูลของอ็อบเจ็กต์</string>
  40. <string id="reportDrills">ระบุนิยามการเจาะลึกแบบรายงานต่อรายงาน, บุ๊กมาร์ก, และข้อความการเจาะลึกสำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  41. <string id="mapChartDrills">ความคุมนิยาม drill ในการแม็พ คุณสามารถกำหนดเป้าหมาย drill อื่นสำหรับแต่ละภูมิภาคหรือแต่ละจุด</string>
  42. <string id="SQLSyntax">ระบุไวยากรณ์ของ SQL ในเคียวรี ค่าของ Cognos SQL ระบุว่าใช้ไวยากรณ์ IBM® Cognos® extended SQL-92 ค่าของ Native SQL ระบุว่าใช้ SQL ฐานข้อมูลแบบดั้งเดิม คุณไม่สามารถใช้ IBM Cognos SQL ได้ ถ้าคุณสมบัติการประมวลผลสำหรับเคียวรีถูกตั้งค่าเป็น Database Only โดยจะต้องมีค่าเป็น Limited Local ค่าของ Pass-Through ระบุว่าใช้ไวยากรณ์ข้อความเคียวรีแบบสแตนด์อะโลน ค่าดีฟอลต์ คือ Native SQL</string>
  43. <string id="dataSource">ระบุแหล่งข้อมูลของเคียวรี</string>
  44. <string id="sqlText">ข้อความของ typed-in SQL โดยจะถือว่าเหมาะสมสำหรับชนิดและแหล่งข้อมูล ไม่เช่นนั้นเคียวรีอาจล้มเหลว หรือสร้างผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด</string>
  45. <string id="mdxText">ข้อความของ typed-in MDX โดยจะถือว่าเหมาะสมสำหรับชนิดและแหล่งข้อมูล ไม่เช่นนั้นเคียวรีอาจล้มเหลว หรือสร้างผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด</string>
  46. <string id="refQuery">ระบุการอ้างอิงถึงเคียวรี</string>
  47. <string id="refQuery_optional">ระบุการอ้างอิงถึงเคียวรี</string>
  48. <string id="refDataItem">ระบุการอ้างอิงถึงไอเท็มข้อมูล</string>
  49. <string id="refDataItemInfo">ระบุการอ้างอิงถึงไอเท็มข้อมูล คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  50. <string id="selectWithTreeItem">ระบุค่าที่ใช้โดยอ็อบเจ็กต์พร้อมต์</string>
  51. <string id="useItem">ระบุค่าที่ใช้โดยอ็อบเจ็กต์พร้อมต์ ค่าเหล่านี้สามารถต่างจากค่าที่แสดงผลให้กับผู้ใช้</string>
  52. <string id="displayItem">ระบุค่าที่แสดงผลให้กับผู้ใช้เมื่อใช้พร้อมต์ ค่าเหล่านี้สามารถต่างจากค่าที่จริงที่รายงานใช้</string>
  53. <string id="staticChoices">แทนคอลเล็กชันของตัวเลือกแบบสแตติกที่อ็อบเจ็กต์พร้อมต์ใช้</string>
  54. <string id="listColumnRowSpan">ระบุกลุ่มที่เซลล์นี้ควรกระจายให้เห็นได้</string>
  55. <string id="rowsPerPage">ระบุจำนวนแถวสูงสุดที่ต้องการแสดงในแต่ละครั้ง สำหรับพร้อมต์ Value และ Select &amp; Search อนุญาตให้คุณขยายและลดจำนวนแถวสูงสุดเกินว่าค่า 5000 ซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์</string>
  56. <string id="filterDefinition">ระบุนิพจน์ที่ต้องการประเมินเมื่อกรองข้อมูล</string>
  57. <string id="slicerMemberExpression">ระบุนิพจน์ที่กำหนดชุดของสมาชิก slicer</string>
  58. <string id="autoSummary">ระบุว่าแอ็พพลิเคชันจะใช้ฟังก์ชันการรวบรวมที่แนะนำเพื่อรวบรวมไอเท็มข้อมูลและจัดกลุ่มไอเท็มข้อมูลที่ไม่รวมทั้งหมด สร้างกลุ่มและแถวสรุปหรือไม่ ถ้าตั้งค่าเป็น No แถวรายละเอียดจะถูกแสดง</string>
  59. <string id="generatedSQL">แสดง SQL หรือ MDX ที่สร้างขึ้น</string>
  60. <string id="setOperation">ระบุการดำเนินการตั้งค่าเพื่อใช้กับเคียวรีหนึ่งรายการหรือมากกว่า ที่มีผลในรายการ projection ที่เคียวรีอื่นสามารถใช้</string>
  61. <string id="duplicates">ระบุว่าจะลบหรือเก็บแถวที่ซ้ำกันไว้</string>
  62. <string id="projectionList">แสดงรายการของไอเท็มข้อมูลที่ project สำหรับการดำเนินการการตั้งค่า คุณสามารถสร้างรายการโดยอัตโนมัติหรือเพิ่มไอเท็มข้อมูลเอง</string>
  63. <string id="cardinality">ระบุ cardinality สำหรับโอเปอร์แรนด์ join นี้</string>
  64. <string id="JoinRelationships">ระบุวิธีรวมสองเคียวรี</string>
  65. <string id="dimensionInfo">ระบุข้อมูลมิติสำหรับเคียวรี เพิ่มข้อมูลมิติเมื่อแหล่งข้อมูลไม่มีข้อมูลมิติ หรือเมื่อคุณต้องการแทนที่ ขยาย หรือจำกัดข้อมูล</string>
  66. <string id="memberSetStructure">ระบุโครงสร้าง set ของเคียวรี ถ้าไม่ได้กำหนดไว้ จะถือว่าแต่ละไอเท็มข้อมูลจะกำหนด set ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน</string>
  67. <string id="masterDetailLinks">ระบุความสัมพันธ์ระหว่างคอนเทนเนอร์ข้อมูลต้นฉบับและคอนเทนเนอร์ข้อมูลรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบุวิธีที่ไอเท็มเคียวรีในเคียวรีต้นฉบับลิงก์กับไอเท็มเคียวรีหรือพารามิเตอร์ในเคียวรีรายละเอียด</string>
  68. <string id="FilterScope">ระบุขอบเขตของตัวกรองเป็นจำนวนของระดับ</string>
  69. <string id="allowUnplottedData">ระบุว่าอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่มีคุณลักษณะที่สอดคล้องหรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ ข้อมูลที่ไม่มีคุณลักษณะที่สอดคล้องจะถูกข้าม เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ การแม็พจะไม่รันถ้ามีข้อมูลที่ไม่มีคุณลักษณะที่สอดคล้อง</string>
  70. <string id="catalog">ระบุแค็ตตาล็อก OLAP</string>
  71. <string id="reportExpression">ระบุนิพจน์รายงาน</string>
  72. <string id="propertyList">ระบุรายการของไอเท็มข้อมูลจากเคียวรีในขอบเขตเพื่อเชื่อมโยงกับอ็อบเจ็กต์ที่เลือก ซึ่งมีความจำเป็น เมื่อคุณต้องการอ้างถึงไอเท็มข้อมูลที่อยู่ในเคียวรีที่เชื่อมโยง แต่ไม่ใช้ในโครงร่าง</string>
  73. <string id="postAutoAggregation">ระบุว่าจะใช้เงื่อนไขก่อนหรือหลังการรวมและการสรุป เมื่อเป็น true จะใช้เงื่อนไขกับแถวที่ถูกสรุป และ fact หรือการรวม ในนิพจน์จะถูกแปลเป็นค่าที่ถูกรวมของแถวที่ถูกสรุป เมื่อเป็น false จะใช้เงื่อนไขกับแถวฐานข้อมูลรายละเอียดจากชุดผลลัพธ์แบบเป็นตารางก่อนการรวมหรือการสรุป และ fact หรือการรวม ในนิพจน์จะถูกแปลเป็นค่าฐานข้อมูลแต่ละค่าก่อนที่จะถูกสรุป คุณสมบัตินี้ไม่มีผลกับแหล่งข้อมูล OLAP กับการอ้างอิงถึงไอเท็มที่ไม่ใช่การรวม หรือเมื่อเปิดใช้งานการสรุปโดยอัตโนมัติ</string>
  74. <string id="queryOperationName">ระบุตัวบ่งชี้ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับการดำเนินการเคียวรี</string>
  75. <string id="SQLName">ระบุตัวบ่งชี้ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับอ็อบเจ็กต์ SQL</string>
  76. <string id="MDXName">ระบุตัวบ่งชี้ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับอ็อบเจ็กต์ MDX</string>
  77. <string id="solveOrder">ระบุลำดับของ solve ในอ้างอิงไขว้และแผนภูมิ ไอเท็มที่มีค่าลำดับ solve ต่ำสุดจะถูกคำนวณก่อน ตามด้วยค่าต่ำสุดถัดมา เป็นต้น สำหรับค่าที่เหมือนกับในอ้างอิงไขว้ ไอเท็มคอลัมน์จะถูกคำนวณก่อน จากนั้นคำนวณไอเท็มแถว และจากนั้นการวัด ในแผนภมิ ไอเท็มแกน x จะถูกคำนวณก่อน จากนั้นไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์</string>
  78. <string id="dataLocale">ระบุภาษาของข้อมูล</string>
  79. <string id="showDataRangeInLegend">ระบุว่าต้องการแสดงช่องของข้อมูลแบบเต็มในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่ ถ้าตั้งค่าเป็น ไม่ จะแสดงเฉพาะค่าจากพาเล็ต</string>
  80. <string id="showAxisLabels">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนเลเบลของแกน คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  81. <string id="v2_axisLabels">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนเลเบลของแกน</string>
  82. <string id="detail">ระบุว่าจะใช้ไอเท็มข้อมูลสำหรับการคำนวณการรวมหรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ จะใช้ไอเท็มข้อมูลเพื่อรวมราลละเอียดระดับที่น้อยที่สุด</string>
  83. <string id="useSQLJoinSyntax">ควบคุมไวยากรณ์เพื่อสร้าง joins คลิก Implicit to generate joins ในประโยค WHERE คลิก Explicit to generate INNER JOIN syntax ถ้าไม่ได้ระบุ จะใช้ค่าของ governor ที่สอดคล้องในโมเดล</string>
  84. <string id="shareResultSet">ระบุว่าต้องการแบ่งใช้เคียวรีที่เหมือนกันระหว่างคอนเทนเนอร์ข้อมูลที่ใช้เคียวรีนั้นอยู่หรือไม่ เมื่อต้องการแบ่งใช้เคียวรี คอนเทนเนอร์ข้อมูลต้องเป็น รายการ, repeaters หรือตาราง repeater และต้องใช้โครงสร้างการจัดกลุ่มและรายการของคุณสมบัติเดียวกัน คอนเทนเนอร์ข้อมูลไม่สามารถเป็นส่วนของความสัมพันธ์รายละเอียดต้นฉบับ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ เคียวรีจะส่งคำร้องขอเดียวไปยังฐานข้อมูลและแบ่งใช้ผลลัพธ์ เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ จะไม่แบ่งใช้เคียวรี</string>
  85. <string id="layoutSuppress">ระบุอ็อพชัน zero suppression สำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  86. <string id="DataItemSetMembers">ระบุสมาชิกในชุดของสมาชิก</string>
  87. <string id="classLabel">ระบุเลเบลคลาสสำหรับโลคัลคลาส</string>
  88. <string id="classLabelInfo">ระบุเลเบลคลาสสำหรับโกลบอลคลาส คุณไม่สามารถแก้ไขเลเบลนี้</string>
  89. <string id="defaultMeasure">ระบุการวัดดีฟอลต์เพื่อใช้สำหรับอ้างอิงไขว้หรือแผนภูมิ ถ้าการวัดของอ้างอิงไขว้หรือแผนภูมิไม่สามารถกำหนดโดยสิ่งที่แสดงบนขอบ ดังนั้นการวัดจะถูกแสดงผล</string>
  90. <string id="variableType">ระบุชนิดของตัวแปร</string>
  91. <string id="variableExpression">ระบุนิพจน์เพื่อประเมินผลเมื่อกำหนดค่าสำหรับตัวแปรนี้</string>
  92. <string id="description">ระบุคำอธิบายสำหรับอ็อบเจ็กต์ ที่ใช้เพื่อช่วยในการเขียน</string>
  93. <string id="Groups">ระบุโครงสร้างการจัดกลุ่มและการเรียงลำกับ</string>
  94. <string id="sortList">ระบุลำดับการเรียงลำดับที่ต้องการ</string>
  95. <string id="cellHeightBehavior">ระบุความสูงแบบสัมพันธ์ของแถวของรายการ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะเมื่อรายการมีการกำหนดความสูงในคุณสมบัติ Size และ Overflow</string>
  96. <string id="showColumnTitles">ระบุตำแหน่งที่อาจแสดงหัวเรื่องคอลัมน์หรือระบุว่าจะแสดงหรือไม่</string>
  97. <string id="repeater_direction">ระบุทิศทางที่ต้องการเติมเซลล์ repeater ที่แสดง</string>
  98. <string id="across">กำหนดจำนวนครั้งในแนวขวางหรือแนวนอนที่เนื้อหาของอ็อบเจ็กต์อาจถูกแสดง</string>
  99. <string id="down">ระบุจำนวนครั้งขสลง หรือแถวที่อาจแสดงเนื้อหากรอบ</string>
  100. <string id="map">ตั้งแม็พและเลเยอร์สำหรับแผนภูมิแผนที่</string>
  101. <string id="orientation">ระบุว่าแผนภูมิจะแสดงในแนวตั้งหรือแนวนอน</string>
  102. <string id="depth">ระบุเอฟเฟ็กต์แบบ 3 มิติของแผนภูมิ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงแผนภูมิแบบไม่มีมิติ</string>
  103. <string id="holeSize">ระบุขนาดของรูในแผนภูมิโดนัท ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงแผนภูมิวงกลม</string>
  104. <string id="visualAngle">ระบุมุมเป็นองศา ที่อ็อบเจ็กต์แผนภูมิจะถูกแสดงเมื่อแผนภูมิมีเอฟเฟ็กต์แบบ 3-D คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  105. <string id="threeDViewingAngle">ระบุมุมการดูแบบ 3-D ของแผนภูมิ</string>
  106. <string id="sliceStartAngle">ระบุมุมที่ส่วนของวงกลมแรกในแผนภูมิวงกลมเริ่มต้น</string>
  107. <string id="v2_explodedSlices">ระบุส่วนที่ปรากฎว่าถูกดึงออกจากแผนภูมิวงกลมและลักษณะที่ปรากฎ</string>
  108. <string id="legendTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  109. <string id="v2_legendTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์ในแผนภูมิหรือไม่</string>
  110. <string id="legendSeparator">ระบุตัวคั่นเพื่อใช้ระหว่างรายการคำอธิบายสัญลักษณ์และค่าเมื่อคุณแสดงค่าในคำอธิบายสัญลักษณ์ ตัวคั่นดีฟอลต์คือคอมม่า (,) ตามด้วยช่องว่าง</string>
  111. <string id="axisTitle">ระบุว่าจะแสดงชื่อแกนหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  112. <string id="useDefaultTitle">ระบุว่าจะสร้างหัวเรื่องดีฟอลต์หรือไม่</string>
  113. <string id="cumulationAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนสำหรับเส้นการสะสมหรือไม่</string>
  114. <string id="cumulationLabel">ระบุว่าจะแสดงเลเบลสำหรับเส้นการสะสมในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  115. <string id="legendSuffixValues">ระบุค่าที่ต้องการแสดงในคำอธิบายสัญลักษณ์ของแผนภูมิ</string>
  116. <string id="absoluteLegendPosition">ระบุว่าคำอธิบายสัญลักษณ์จะมีการกำหนดตำแหน่งแบบสัมบูรณ์ โดยการตั้งค่าตำแหน่งพิกเซล</string>
  117. <string id="bottomLegendPosition">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านล่างของคำอธิบายสัญลักษณ์โดยวัดจากด้านล่างของแผนภูมิ</string>
  118. <string id="leftLegendPosition">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านซ้ายของคำอธิบายสัญลักษณ์โดยวัดจากขอบด้านซ้ายของแผนภูมิ</string>
  119. <string id="rightLegendPosition">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านขวาของคำอธิบายสัญลักษณ์โดยวัดจากขอบด้านซ้ายของแผนภูมิ</string>
  120. <string id="topLegendPosition">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านบนของคำอธิบายสัญลักษณ์โดยวัดจากด้านล่างของแผนภูมิ</string>
  121. <string id="legendPosition">ระบุตำแหน่งที่จะวางคำอธิบายสัญลักษณ์</string>
  122. <string id="autoFontResizing">ระบุว่าอนุญาตให้ปรับขนาดของฟอนต์โดยอัตโนมัติหรือไม่</string>
  123. <string id="maxCharacters">ระบุจำนวนสูงสุดของอักขระที่จะแสดงก่อนที่ข้อความจะถูกตัดทอน</string>
  124. <string id="truncationText">ระบุข้อความที่ต้องการผนวกเมื่อเลเบลถูกตัดทอน</string>
  125. <string id="textTruncation">ระบุว่าจะไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์จะถูกตัดทอนหรือไม่และอย่างไร</string>
  126. <string id="separator">ระบุตัวคั่นเพื่อใช้เมื่อแสดงหลายค่า</string>
  127. <string id="comboType">ระบุว่าข้อมูลอาจถูกแสดงเป็นแท่ง เส้น หรือพื้นที่อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  128. <string id="V2ComboType">ระบุว่าข้อมูลอาจถูกแสดงเป็นแท่ง เส้น หรือพื้นที่อย่างใดอย่างหนึ่ง</string>
  129. <string id="threeDComboType">ระบุว่าข้อมูลอาจถูกแสดงเป็นแท่ง เส้น หรือพื้นที่อย่างใดอย่างหนึ่ง</string>
  130. <string id="gridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดในแผนภูมิ</string>
  131. <string id="minorGridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดรองในแผนภูมิ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  132. <string id="v2_minorGridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดรองในแผนภูมิ</string>
  133. <string id="v2_majorGridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดหลักในแผนภูมิ</string>
  134. <string id="axisLine">ระบุคุณสมบัติของเส้นแกนในแผนภูมิ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  135. <string id="connectLines">ระบุคุณสมบัติของเส้นที่เชื่อมเซ็กเมนต์ของแผนภูมิสแต็ก คุณสมบัตินี้จะถูกข้ามสำหรับแท่งแบบคลัสเตอร์ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  136. <string id="v2_connectLines">ระบุคุณสมบัติของเส้นที่เชื่อมเซ็กเมนต์ของแผนภูมิสแต็กในแผนภูมิ progressive คุณสมบัตินี้จะถูกข้ามสำหรับแท่งแบบคลัสเตอร์</string>
  137. <string id="noteBorder">ระบุคุณสมบัติสำหรับขอบของบันทึก</string>
  138. <string id="showLine">ระบุว่าเส้นอาจถูกแสดงหรือไม่ ซึ่งอนุญาตให้คุณแสดงมาร์กเกอร์ที่ไม่มีเส้น</string>
  139. <string id="lineStyles">ระบุลักษณะ สี และน้ำหนักของเส้น</string>
  140. <string id="v2_trendLines">เพิ่มเส้นหรือเส้นโค้งแนวโน้มที่ระบุทิศทางทั่วไปของข้อมูลในช่วงเวลา</string>
  141. <string id="v2_trendLineType">ระบุชนิดของเส้นแนวโน้ม</string>
  142. <string id="v2_trendLineBasedOn">ระบุไอเท็มข้อมูลลำดับที่เส้นแนวโน้มใช้</string>
  143. <string id="paretoLineStyles">ระบุลักษณะ สี และน้ำหนักของเส้นในแผนภูมิ Pareto</string>
  144. <string id="setOrdinalWidthScale">ระบุความกว้างของแท่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ที่มี เช่น ถ้าคุณระบุ 50 เปอร์เซ็นต์ แท่งจะใช้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ที่มีและแท่งจะถูกแยกออกจากกัน ถ้าคุณระบุ 100 เปอร์เซ็นต์ จะไม่มีช่องว่างระหว่างแท่ง ค่าดีฟอลต์ คือ 80</string>
  145. <string id="paretoLineMarker">ระบุว่าต้องการแสดงจุดข้อมูลบนแผนภูมิและวิธีจัดรูปแบบ</string>
  146. <string id="lineStyle">ระบุลักษณะ สี และน้ำหนักของเส้น คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  147. <string id="v2_lineStyle">ระบุลักษณะ สี และน้ำหนักของเส้น</string>
  148. <string id="dataPointColor">ระบุสีของมาร์กเกอร์</string>
  149. <string id="v2_gaugeAxisAngleAndDirection">ระบุมุมเริ่มต้นและสิ้นสุดและทิศทางของแกนเกจ มุมทั้งหมดจะวัดเป็นองศาเริ่มจากตำแหน่งสามนาฬิกา</string>
  150. <string id="gaugeAxes">ระบุมุมเริ่มต้นและสิ้นสุดสำหรับแกนเกจ</string>
  151. <string id="gaugePivot">ระบุว่าต้องการแสดงจุด pivot กึ่งกลางและสี ขนาด และลักษณะ</string>
  152. <string id="gaugeBorder">ระบุว่าจะแสดงขอบรอบส่วนของแผนภูมิในแผนภูมิเกจหรือไม่</string>
  153. <string id="faceColor">ระบุสีที่ต้องการแสดงบนหน้าของแต่ละเกจในแผนภูมิเกจ</string>
  154. <string id="dialOutlineColor">ระบุสีโครงร่างของหน้าปัดในแผนภูมิเกจ</string>
  155. <string id="v2_colorByValue">ระบุวิธีแสดงสีโดยใช้ค่าในแผนภูมิ</string>
  156. <string id="weight">ระบุความหนาของเส้นเป็นพอยต์ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงเส้นที่บางที่สุด</string>
  157. <string id="categoryitemEnableTruncation">ระบุว่าสามารถตัดทอนเลเบลได้หรือไม่</string>
  158. <string id="categoryitemMaxCharacters">ระบุจำนวนสูงสุดของอักขระที่จะแสดงก่อนที่เลเบลจะถูกตัดทอน</string>
  159. <string id="allowRotate45DegreesForCategoryLabels">ระบุว่าเลเบลสามารถหมุนได้ 45 องศาหรือไม่ ถ้าเลเบลยาวเกินไป</string>
  160. <string id="allowRotate90DegreesForCategoryLabels">ระบุว่าเลเบลสามารถหมุนได้ 90 องศาหรือไม่ ถ้าเลเบลยาวเกินไป</string>
  161. <string id="allowStaggerForCategoryLabels">ระบุว่าเลเบลสามารถเอียงได้ ถ้าเลเบลยาวเกินไป</string>
  162. <string id="allowSkipForCategoryLabels">ระบุว่าสามารถข้ามบางเลเบลได้ ถ้าเลเบลยาวเกินไป</string>
  163. <string id="max">ระบุค่าสูงสุดสำหรับสเกลตัวเลข ถ้าไม่ได้ระบุค่า ค่าจะถูกคำนวณโดยใช้ข้อมูล</string>
  164. <string id="min">ระบุค่าต่ำสุดสำหรับสเกลตัวเลข ถ้าไม่ได้ระบุค่า ค่าจะถูกคำนวณโดยใช้ข้อมูล</string>
  165. <string id="scaleInterval">ระบุช่วงเวลาระหว่างขีดบนสเกลตัวเลข ถ้าไม่ได้ระบุค่า ค่าจะถูกคำนวณโดยใช้ข้อมูล</string>
  166. <string id="scale">ระบุว่าสเกลตัวเลขเป็นแบบลอการิทึมหรือลีเนียร์</string>
  167. <string id="useNumericalAxis">ระบุแกนตัวเลขที่ต้องการใช้ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  168. <string id="v2_axisLine">ระบุคุณสมบัติของเส้นแกนในแผนภูมิ</string>
  169. <string id="v2_axisRange">ระบุลักษณะที่ปรากฎของช่วงของค่าบนแกน</string>
  170. <string id="v2_axisTitle">ระบุว่าจะแสดงชื่อแกนในแผนภูมิหรือไม่</string>
  171. <string id="pointChartAxis">ระบุแกนตัวเลขที่ต้องการใช้</string>
  172. <string id="valueType">ระบุว่าจะแสดงข้อมูลสแต็กแบบสัมบูรณ์ สแต็ก หรือ 100 เปอร์เซ็นต์</string>
  173. <string id="dataPointSize">ระบุขนาดของมาร์กเกอร์เป็นพอยต์ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงไม่แสดงมาร์กเกอร์</string>
  174. <string id="dataPointShape">ระบุรูปร่างของมาร์กเกอร์</string>
  175. <string id="lineShape">ระบุรูปร่างของเส้นในแผนภูมิเส้น</string>
  176. <string id="areaShape">ระบุรูปร่างของพื้นที่ในแผนภูมิพื้นที่</string>
  177. <string id="barShape">ระบุรูปร่างของแท่งในแผนภูมิแท่ง</string>
  178. <string id="pointChartDataPointShape">ระบุรูปร่างของมาร์กเกอร์ ถ้าคุณเลือกค่าที่เป็นชุด หรือหมวดหมู่ รูปร่างของมาร์กเกอร์จะเปลี่ยนไปตามนั้น</string>
  179. <string id="useSpiderEffects">ระบุว่าแผนภูมิจะถูกแสดงด้วย web-like flat concentric circles ต้องตั้งคุณสมบัติ Radial Axis เป็น Show เพื่อให้คุณสมบัตินี้มีผล</string>
  180. <string id="showBaselineLabel">ระบุว่าจะแสดงเลเบลสำหรับเส้นฐานหรือไม่</string>
  181. <string id="showMarkerLabel">ระบุว่าจะแสดงเลเบลสำหรับมาร์กเกอร์หรือไม่</string>
  182. <string id="offsetStdDev">ระบุระยะห่างจากค่าเฉลี่ยในการเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่านี้สามารถเป็นค่าบวกหรือค่าลบ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงค่าเฉลี่ย</string>
  183. <string id="percentile">ระบุตำแหน่งโดยใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ของข้อมูล ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  184. <string id="percentAlongAxis">ระบุตำแหน่งโดยใช้เปอร์เซ็นต์ตามแกนตัวเลข ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  185. <string id="allowTruncation">ระบุว่าอนุญาตให้ตัดทอนข้อความหรือไม่</string>
  186. <string id="radarType">ระบวิธีแสดงแผนภูมิเรดาห์</string>
  187. <string id="showInLegend">ระบุว่าต้องการแสดงเส้นฐานในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  188. <string id="showValues">ระบุว่าจะแสดงค่าในแผนภูมิหรือไม่</string>
  189. <string id="v2_legend">ระบุว่าจะแสดงคำอธิบายสัญลักษณ์และตำแหน่งของคำอธิบายสัญลักษณ์ในแผนภูมิ</string>
  190. <string id="v2_notes">ระบุว่าจะแสดงบันทึกในแผนภูมิหรือไม่</string>
  191. <string id="noteBottom">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านล่างของบันทึกโดยวัดจากด้านล่างของแผนภูมิ</string>
  192. <string id="noteLeft">ระบุตำแหน่งพิกเซลของขอบด้านขวาของบันทึกโดยวัดจากขอบด้านซ้ายของแผนภูมิ</string>
  193. <string id="noteHeight">ระบุความสูงของบันทึกเป็นพิกเซล</string>
  194. <string id="noteWidth">ระบุความกว้างของบันทึกเป็นพิกเซล</string>
  195. <string id="comboIndex">ระบุอ็อบเจ็กต์ที่ผสมกันอ็อบเจ็กต์ใดจะใช้เมื่อคำนวณตำแหน่ง เมื่อมีหลายชุดที่เป็นลำดับ ดัชนีที่เป็น 0 จะแทนแท่งที่สูงที่สุด หรือพื้นที่ในดร็อบโซน Series ดัชนีที่เป็น 1 แทนลำดับที่สอง เป็นต้น</string>
  196. <string id="showBorders">ระบุว่าจะแสดงเส้นขอบรอบอิลิเมนต์แผนภูมิที่</string>
  197. <string id="borderColor">ระบุสีของเส้นขอบรอบอิลิเมนต์แผนภูมิที่ระบุหรือไม่ เช่น แท่ง สแต็ก พื้นที่ จุด หรือ ส่วนของวงกลม</string>
  198. <string id="regressionType">ระบุชนิดของการถดถอยที่ใช้</string>
  199. <string id="numberOfRegressionLines">ระบุว่าจะมีเส้นการถดถอยเพียงเส้นเดียวสำหรับข้อมูลทั้งหมดหรือหนึ่งเส้นสำหรับแต่ละชุดข้อมูล</string>
  200. <string id="polynomialExponent">ระบุค่าเอ็กโปเนนเทียลที่สูงที่สุดเพื่อใช้ในการคำนวนการถดถอย</string>
  201. <string id="memberOffset">ระบุตำแหน่งที่สัมพันธ์กับไอเท็มถัดไปในแผนภูมิ นี่เป็นค่าเปอร์เซ็นต์ ค่าลบหมายถึงก่อนสมาชิกและค่าบวกหมายถึงหลังจากสมาชิก</string>
  202. <string id="showNoDataFeatures">ระบุว่าต้องการแสดงคุณลักษณะของแม็พที่ไม่มีข้อมูลที่สอดคล้องหรือไม่</string>
  203. <string id="noDataFeaturesSize">ระบุว่าขนาดของพอยต์ที่ใช้สำหรับสำหรับคุณลักษณะพอยต์ของแม็พที่ไม่มีข้อมูลที่สอดคล้อง</string>
  204. <string id="mapLayerLabels">ระบุว่าเลเบลถูกเรนเดอร์สำหรับชั้นที่แสดงในแม็พหรือไม่</string>
  205. <string id="mapLayerValuesLabels">ระบุว่าค่าและเลเบลถูกเรนเดอร์สำหรับชั้นพื้นที่และจุดในแม็พหรือไม่</string>
  206. <string id="v2_maxItems">ระบุว่าต้องการสรุปไอเท็มขนาดเล็ก เช่น ส่วนของวงกลม เส้น พื้นที่ แท่งหรือคอลัมน์ ในแผนภูมิหรือไม่และวิธีที่จะสรุป คุณไม่สามารถสรุปไอเท็มขนาดเล็กในแผนภูมิที่มีขอบของเมทริก หรือในแผนภูมิที่มีแกนตัวเลขหลายแกน</string>
  207. <string id="v2_barMaxItems">ระบุว่าต้องการสรุปไอเท็มขนาดเล็ก เช่น ส่วนของวงกลม เส้น พื้นที่ แท่งหรือคอลัมน์ ในแผนภูมิหรือไม่และวิธีที่จะสรุป คุณไม่สามารถสรุปไอเท็มขนาดเล็กในแผนภูมิที่มีขอบของเมทริก หรือในแผนภูมิที่มีแกนตัวเลขหลายแกน</string>
  208. <string id="mapDictionary">ระบุนามแฝงที่จะใช้เมื่อเปรียบเทียบค่าข้อมูลกับชื่อคุณลักษณะในแผนที่</string>
  209. <string id="includeZeroForAutoScale">ระบุว่าจะรวมค่าศูนย์ในการคำนวณสเกลโดยอัตโนมัติหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  210. <string id="sameRangeAllInstances">ระบุว่าอินสแตนซ์ทั้งหมดของแผนภูมิใช้ค่าสูงสุดเดียวกัน เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ ค่าสูงสุดของแกนจะถูกคำนวณใหม่สำหรับแต่ละอินสแตนซ์ของแผนภูมิ ซึ่งจะเกี่ยวข้องเฉพาะ ถ้าแผนภูมิเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์รายละเอียดหลัก</string>
  211. <string id="minPointSize">ระบุขนาดที่เล็กที่สุดที่ใช้สำหรับสำหรับคุณลักษณะพอยต์ของแม็พที่มีข้อมูลที่สอดคล้อง ตัวอย่างเช่น ถ้าขนาดที่เล็กที่สุดคือ 2pt และขนาดที่ใหญ่ที่สุดคือ 12pt ขนาดของแต่ละพอยต์จะถูกคำนวณโดยใช้ linear interpolation ที่ใช้ค่าการวัดของตัวเอง</string>
  212. <string id="maxPointSize">ระบุขนาดที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้สำหรับสำหรับคุณลักษณะพอยต์ของแม็พที่มีข้อมูลที่สอดคล้อง ตัวอย่างเช่น ถ้าขนาดที่เล็กที่สุดคือ 2pt และขนาดที่ใหญ่ที่สุดคือ 12pt ขนาดของแต่ละพอยต์จะถูกคำนวณโดยใช้ linear interpolation ที่ใช้ค่าการวัดของตัวเอง</string>
  213. <string id="showLegendValues">ระบุว่าจะแสดงค่าคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่และวิธีแสดง</string>
  214. <string id="required">ระบุว่าจำเป็นต้องมีพร้อมต์หรือเป็นอ็อพชัน ถ้าตั้งคุณสมบัตินี้เป็น จำเป็น ต้องมีการป้อนค่าพร้อมต์ก่อนที่รายงานจะสามารถรันได้ ค่าติดตั้ง Usage ของตัวกรองที่ใช้พารามิเตอร์ที่เชื่อมโยงสำหรับคุณสมบัตินี้จะแทนที่ค่าติดตั้งของอ็อบเจ็กต์นี้ ถ้าคุณแก้ไขคุณสมบัตินี้ แต่ไม่ได้รับผลลัพธ์ที่คาดไว้ ให้ตรวจสอบค่าติดตั้ง Usage ของตัวกรองที่เชื่อมโยง</string>
  215. <string id="showCaption">ระบุว่าต้องการคำบรรยายหรือไม่ หรือแสดงที่</string>
  216. <string id="multiSelect">ระบุว่าตัวควบคุมอนุญาตให้เลือกหลายค่าหรือไม่ โปรดสังเกตว่านิพจน์ที่ใช้พารามิเตอร์ที่เชื่อมโยงจะแทนที่ค่าติดตั้งของอ็อบเจ็กต์นี้ ถ้าคุณแก้ไขคุณสมบัตินี้แต่ไม่ได้รับผลลัพธ์ที่คาดไว้ ให้ตรวจสอบนิพจน์ที่เชื่อมโยงว่ามีตัวดำเนินการที่ระบุจำนวนไอเท็มที่สามารถเลือกได้ ตัวอย่างของตัวดำเนินการการเลือกจำนวนมาก คือ "in" และ "not in" ตัวอย่างของตัวดำเนินการการเลือกเดียว คือ เท่ากับ (=) น้อยกว่า (&lt;) และมากกว่า (&gt;)</string>
  217. <string id="selectValueUI">ระบุอินเตอร์เฟสที่ตัวควบคุมพร้อมต์แสดง</string>
  218. <string id="selectDateUI">ระบุอินเตอร์เฟสที่ตัวควบคุมพร้อมต์แสดง</string>
  219. <string id="selectTimeUI">ระบุอินเตอร์เฟสที่ตัวควบคุมพร้อมต์แสดง</string>
  220. <string id="selectDateTimeUI">ระบุอินเตอร์เฟสที่ตัวควบคุมพร้อมต์แสดง</string>
  221. <string id="calendar">ระบุชนิดของปฏิทินที่ต้องการแสดง ค่าวันจะถูกแม็พกับปฏิทินที่เลือกก่อนที่จะถูกจัดรูปแบบ ค่าดีฟอลต์จะสืบทอดจากภาษาเนื้อหาของผู้ใช้</string>
  222. <string id="autoSubmit">ระบุว่าแอ็พพลิเคชันจะส่งหน้าพร้อมต์โดยอัตโนมัติ ทันทีที่ค่าถูกเปลี่ยนหรือไม่</string>
  223. <string id="cascadeOn">ระบุพารามิเตอร์ที่ค่าถูกใช้เพื่อกรองค่าที่แสดงในการควบคุมนี้</string>
  224. <string id="numbersOnly">ระบุว่า Text Box Prompt อนุญาตให้ใช้ตัวเลขเท่านั้นหรือไม่</string>
  225. <string id="showThousandSeparator">ระบุว่าจะคั่นกลุ่มตัวเลขด้วยตัวคั่นหลักพันหรือไม่</string>
  226. <string id="hideAdornments">ระบุว่าจะซ่อนเครื่องหมายดอกจัน (*) บนพร้อมต์ที่จำเป็น และลูกศร (-&gt;) บนพร้อมต์แบบ type-in ที่อยู่ในสถานะข้อผิดพลาดหรือไม่</string>
  227. <string id="range">ระบุว่าตัวควบคุมนี้ยอมรับช่วงหรือไม่ ค่าติดตั้งของนิพจน์ที่ใช้พารามิเตอร์ที่เชื่อมโยงสำหรับคุณสมบัตินี้จะแทนที่ค่าติดตั้งของอ็อบเจ็กต์นี้ ถ้าคุณแก้ไขคุณสมบัตินี้แต่ไม่ได้รับผลลัพธ์ที่คาดไว้ ให้ตรวจสอบนิพจน์ที่เชื่อมโยงว่ามีตัวดำเนินการ in_range หรือไม่</string>
  228. <string id="multiLine">ระบุว่าจะอนุญาตการแก้ไขหลายบรรทัดในการควบคุมข้อความหรือไม่</string>
  229. <string id="hideText">ระบุว่าจะแทนที่อักขระที่ถูกป้อนในตัวควบคุมพร้อมต์ด้วยอักขระเครื่องหมายดอกจัน (*) หรือไม่</string>
  230. <string id="firstDate">ระบุวันที่เก่าที่สุดที่แสดงในการควบคุม และวันที่เก่าที่สุดที่สามารถเลือกได้</string>
  231. <string id="lastDate">ระบุวันที่เก่าที่สุดที่แสดงในการควบคุม และวันที่ล่าสุดที่สามารถเลือกได้</string>
  232. <string id="parameter">ระบุพารามิเตอร์ที่ใช้ค่าที่ถูกเลือกในการควบคุมพร้อมต์</string>
  233. <string id="showSeconds">ระบุว่าจะแสดงวินาทีหรือไม่ รูปแบบของวินาทีสามารถควบคุมได้โดยการเลือกรูปแบบเฉพาะ ค่าดีฟอลต์จะสืบทอดจากภาษาเนื้อหาของผู้ใช้</string>
  234. <string id="showMilliseconds">ระบุว่าจะแสดงมิลลิวินาทีหรือไม่ รูปแบบของมิลลิวินาทีสามารถควบคุมได้โดยการเลือกรูปแบบเฉพาะ คุณสมบัตินี้จะถูกข้ามถ้าไม่แสดงวินาที ค่าดีฟอลต์จะสืบทอดจากภาษาเนื้อหาของผู้ใช้</string>
  235. <string id="clockMode">ระบว่าเข็มของนาฬิกาจะเคลื่อนที่หรือไม่</string>
  236. <string id="type">ระบุลักษณะการทำงานของปุ่มพร้อมต์</string>
  237. <string id="defaultSelections">ระบุคอลเล็กชันของการเลือกดีฟอลต์สำหรับการควบคุมพร้อมต์</string>
  238. <string id="use">ระบุว่าการใช้อ็อบเจ็กต์เป็น Optional, Required หรือ Disabled เมื่อเป็น Optional จะใช้เงื่อนไขนี้ ถ้าพารามิเตอร์ทั้งหมดที่นิพจน์อ้างถึงจะถูกระบุพร้อมกับค่า ถ้านิพจน์ไม่ได้อ้างถึงพารามิเตอร์ใด ๆ ดังนั้น จะใช้เงื่อนไขนี้เสมอ เมื่อเป็น Disabled จะไม่ใช้เงื่อนไขนี้ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการเขียนและทดสอบ</string>
  239. <string id="refLayoutElement">ระบุอ็อบเจ็กต์โครงร่างที่อ้างถึง อ็อบเจ็กต์เป็นคอมโพเนนต์ที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้เฉพาะถ้าอ็อบเจ็กต์มีชื่อ</string>
  240. <string id="refLayoutElementInfo">ระบุอ็อบเจ็กต์โครงร่างที่อ้างถึง อ็อบเจ็กต์เป็นคอมโพเนนต์ที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้เฉพาะถ้าอ็อบเจ็กต์มีชื่อ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  241. <string id="layoutComponentOverrides">ระบุว่าจะแทนที่อ็อบเจ็กต์ชายด์หรือไม่ ก่อนที่คุณจะสามารถแทนที่อ็อบเจ็กต์ชายด์ อ็อบเจ็กต์ชายด์ต้องมีชื่อ</string>
  242. <string id="layoutComponentCaching">ระบุวิธีฝังอ็อบเจ็กต์ที่อ้างถึง การอ้างถึง หรือตัวชี้ ไปยังอ็อบเจ็กต์จะถูกจัดเก็บ โดยดีฟอลต์ นอกจากนี้ สำเนาของอ็อบเจ็กต์ภายนอกสามาถจัดเก็บในรายงาน</string>
  243. <string id="levelCaption">ระบุคำบรรยายสำหรับระดับ</string>
  244. <string id="caption">ระบุคำบรรยาย</string>
  245. <string id="Pagination">ระบุกฎการกำหนดหน้า เช่น การคั่นหน้า คุณสมบัติ keep-with การนับหน้า และกำหนดหมายเลขหน้า</string>
  246. <string id="pushToBottom">ระบุว่าจะวางส่วนท้ายให้อยู่ด้านล่างที่สุดภายในอ็อบเจ็กต์พาเรนต์หรือไม่</string>
  247. <string id="factCellStylePrecedence">ระบุคุณสมบัติของลักษณะใดที่จะแทนที่คุณสมบัติของลักษณะอื่นสำหรับเซลล์ที่ตัดกันในอ้างอิงไขว้ คุณสมบัติของแถว หรือคุณสมบัติของคอลัมน์</string>
  248. <string id="cmmID">ระบุผลกระทบหรือแผนผังที่กำหนดเองใน IBM® Cognos® Metric Studio คัดลอกตัวบ่งชี้จาก Metric Studio (แท็บแผนผัง ปุ่มดูตัวบ่งชี้แผนผังในคอลัมน์แอ็คชัน) และวางในคุณสมบัตินี้ IBM® Cognos® Report Studio ถอดรหัสตัวบ่งชี้เป็น URL ของรูปภาพ แผนผังจะถูกอิมพอร์ตเป็นรูปภาพแบบสแตติก</string>
  249. <string id="regionColorLegendTitle">ระบุหัวเรื่องภายในคำอธิบายสัญลักษณ์เหนือพาเล็ตสำหรับสีของภูมิภาค ถ้าไม่ได้กำหนดอ็อบเจ็กต์นี้ จะไม่มีการแสดงหัวเรื่องเพิ่มเติม ถ้าไม่มีการแสดงคำอธิบายสัญลักษณ์ อ็อบเจ็กต์นี้จะถูกข้าม ลักษณะสำหรับอ็อบเจ็กต์นี้จะสืบทอดจากหัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์</string>
  250. <string id="pointColorLegendTitle">ระบุหัวเรื่องภายในคำอธิบายสัญลักษณ์เหนือพาเล็ตสำหรับสีของพอยต์ ถ้าไม่ได้กำหนดอ็อบเจ็กต์นี้ จะไม่มีการแสดงหัวเรื่องเพิ่มเติม ถ้าไม่มีการแสดงคำอธิบายสัญลักษณ์ อ็อบเจ็กต์นี้จะถูกข้าม ลักษณะสำหรับอ็อบเจ็กต์นี้จะสืบทอดจากหัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์</string>
  251. <string id="pointSizeLegendTitle">ระบุหัวเรื่องภายในคำอธิบายสัญลักษณ์เหนือพาเล็ตสำหรับขนาดของพอยต์ ถ้าไม่ได้กำหนดอ็อบเจ็กต์นี้ จะไม่มีการแสดงหัวเรื่องเพิ่มเติม ถ้าไม่มีการแสดงคำอธิบายสัญลักษณ์ อ็อบเจ็กต์นี้จะถูกข้าม ลักษณะสำหรับอ็อบเจ็กต์นี้จะสืบทอดจากหัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์</string>
  252. <string id="crosstabFactCell">ระบุเนื้อหาของเซลล์ fact ของอ้างอิงไขว้ มีนิยามของเซลล์ fact เพียงนิยามเดียวสำหรับอ้างอิงไขว้โดยไม่คำนึงถึงจำนวนของการวัด</string>
  253. <string id="labelControl">ควบคุมวิธีแสดงเลเบลในแผนภูมิ</string>
  254. <string id="displayFrequency">ระบุความถี่ที่จะแสดงเลเบลของแผนภูมิ ตัวอย่างเช่น ถ้าตั้งค่าเป็น 3 จะแสดงทุก ๆ เลเบลที่สาม</string>
  255. <string id="firstLabel">ระบุเลเบลที่จะแสดงเป็นลำดับแรก ตัวอย่างเช่น ถ้าตั้งค่าเป็น 5 เลเบลที่ห้าจะเป็นเลเบลที่ถูกแสดงก่อน เลเบลต่อมาจะถูกแสดงตามที่กำหนดในคุณสมบัติ Display Frequency</string>
  256. <string id="afterOverallHeader">ระบุว่าส่งหัวของหน้ารายการจะถูกแสดงหลังจากส่วนหัวโดยรวม</string>
  257. <string id="caseInsensitiveIsDefault">ระบุว่าจะดำเนินการค้นหาโดยคำนึงถึงขนาดตัวพิมพ์โดยดีฟอลต์</string>
  258. <string id="edgeLocation">ระบุสมาชิกโหนดหรือ spacer บนขอบของอ้างอิงไขว้ ใช้โดยอ็อบเจ็กต์ Crosstab จุดตัด เพื่อระบุการตัดกันของอิลิเมนต์จากแต่ละขอบ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  259. <string id="row">ระบุแถวของสมาชิกโหนดหรือ spacer บนขอบของอ้างอิงไขว้ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  260. <string id="column">ระบุคอลัมน์ของสมาชิกโหนดหรือ spacer บนขอบของอ้างอิงไขว้ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  261. <string id="contentsOverride">แทนที่เนื้อหาของการตัดกันของอ้างอิงไขว้ที่เลือก ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อซ่อนค่าการวัดสำหรับแต่ละเซลล์หรือเพื่อกำหนดเนื้อหาที่กำหนดเอง</string>
  262. <string id="rotateLabelsWithChart">ควบคุมว่าค่าที่แสดงบนแผนภูมิจะถูกหมุนเมื่อตั้งค่าคุณสมบัติ Chart Orientation เป็น Horizontal หรือไม่ ซึ่งอาจช่วยให้สามารถอ่านค่าบนแผนภูมิแนวนอนได้ง่ายขึ้น คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  263. <string id="indentation">ควบคุมการย่อหน้าของเนื้อหาของสมาชิกโหนดในอ้างอิงไขว้</string>
  264. <string id="applySingleDefaultStyle">ระบุว่าจะใช้คลาสทั้งหมดที่กำหนดไว้หรือเพียงคลาสเดียว เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ จะใช้คลาสสุดท้ายที่นำมาใช้</string>
  265. <string id="renderFactCells">ระบุว่าจะแสดงค่าในเซลล์ fact ของ spacer บนขอบของอ้างอิงไขว้หรือไม่</string>
  266. <string id="PageNumberStyle">ระบุลักษณะเพื่อใช้สำหรับหมายเลขหน้า</string>
  267. <string id="renderPageWhenEmpty">ระบุว่าจะแสดงหน้าเมื่อคอนเทนเนอร์ข้อมูลบนหน้าไม่มีข้อมูลหรือไม่ ถ้าตั้งค่าคุณสมบัตินี้ของคอนเทนเนอร์ข้อมูลบนหน้าเป็น ไม่ และไม่มีข้อมูลที่จะแสดง หน้าจะไม่ถูกแสดง ถ้าคอนเทนเนอร์ข้อมูลบนหน้ามีข้อมูล หรือตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็นน ใช่ หน้าจะถูกแสดง</string>
  268. <string id="pageSetup">ระบุการวัดวางและขนาดกระดาษสำหรับเอกสาร PDF</string>
  269. <string id="winLossValue">ระบุค่า win-loss ในแผนภูมิ win-loss ซึ่งแทนค่าที่ถูกโยง ซึ่งถูกแม็พบนเส้นศูนย์</string>
  270. <string id="allowTies">ระบุว่าค่าข้อมูลที่เท่ากับคุณสมบัติ Win Loss Threshold จะถูกแปลงเป็นค่าศูนย์และแม็พบนเส้นศูนย์หรือไม่</string>
  271. <string id="winColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นที่ใช้กับค่า win</string>
  272. <string id="lossColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นที่ใช้กับค่า loss</string>
  273. <string id="lineType">ระบุชนิดของเส้นที่ใช้เพื่อเชื่อมต่อค่าข้อมูล</string>
  274. <string id="showDataPoints">ระบุว่าจะแสดงมาร์กเกอร์ค่าหรือไม่และวิธีจัดรูปแบบ</string>
  275. <string id="bubbleSizing">ระบุวิธีคำนวณขนาดของบับเบิล Minimum-Based จะกำหนดบับเบิลที่เล็กที่สุดให้กับค่าข้อมูลที่น้อยที่สุด Zero-Based จะคำนวณขนาดของบับเบิลสัมพันธ์กับค่า 0 อ็อพชันนี้ใช้ได้กับ Excel 2002 Zero-Based ที่มี Negatives จะแสดงบับเบิลลบเป็นหลุม และบับเบิลจะใหญ่ขึ้นเมื่อมีค่ามากกว่า 0 อ็อพชันนี้ใช้ได้กับ Excel 2007</string>
  276. <string id="v2_bubbleSize">ระบุวิธีคำนวณขนาดของบับเบิลบนแผนภูมิบับเบิล</string>
  277. <string id="useV2DefaultTitle">ระบุว่าหัวเรื่องดีฟอลต์อาจถูกสร้างขึ้นหรือไม่</string>
  278. <string id="tableHeader">ระบุว่าเซลล์เป็นส่วนหัวของตารางหรือไม่ ใช้เพื่อทำให้ผู้ที่ใช้เครื่องอ่านหน้าจอสามารถเข้าถึงรายงานได้ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ เครื่องอ่านหน้าจอและเบราว์เซอร์คำพูดจะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างส่วนหัวของตารางและเซลล์ของตารางโดยอัตโนมัติ</string>
  279. <string id="materialEffects">ระบุเอฟเฟ็กต์ของวัสดุ เช่น พลาสติก หรือโลหะ</string>
  280. <string id="pieMaterialEffects">ระบุเอฟเฟ็กต์ของวัสดุ เช่น พลาสติก หรือโลหะ ในแผนภูมิวงกลม</string>
  281. <string id="bevel">ระบุว่าแผนภูมิจะปรากฎพร้อมกับขอบที่เป็นมุมหรือไม่</string>
  282. <string id="v2_constrainedPosition">ระบุตำแหน่งของบันทึกในแผนภูมิ</string>
  283. <string id="render">สำหรับรายงานแบบรายการ ระบุว่าจะแสดงคอลัมน์ในเอาต์พุตของรายงานหรือไม่ ไม่ว่าตั้งค่าเป็น ใช่ หรือ ไม่ เคียวรีสำหรับคอลัมน์จะถูกเรียกใช้เสมอ</string>
  284. <string id="bulletIndicators">ระบุขนาดและรูปร่างของมาร์กเกอร์ข้อมูลแผนภูมิ bullet ที่แทนค่าที่แท้จริง</string>
  285. <string id="sliceDirection">ระบุทิศทางที่ส่วนของวงกลมปรากฎในแผนภูมิวงกลม</string>
  286. <string id="v2_matrix">ระบุว่าจะแสดงเมทริกของแผนภูมิในแถวหรือคอลัมน์หรือไม่</string>
  287. <string id="v2_defaultLabel">ระบุว่าจะแสดงเลเบลดีฟอลต์สำหรับเส้นแนวโน้มหรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ คุณสามารถพิมพ์ข้อความเลเบลของคุณ</string>
  288. <string id="matchSeriesColor">ระบุว่าสีของมาร์กเกอร์ข้อมูลจะถูกซิงโครไนซ์ระหว่างแผนภูมิหรือไม่เมื่อคุณใช้ชุดข้อมูลเดียวกันสำหรับหลายแผนภูมิภายในแผนภูมิรวม ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างแผนภูมิเส้นและแผนภูมิแท่งโดยใช้ชุดข้อมูลปี และคุณตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น ใช่ ดังนั้นมาร์กเกอร์ข้อมูลสำหรับ 2010 จะเป็นสีเดียวกันทั้งสองแผนภูมิ ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อลดการป้อนคำอธิบายสัญลักษณ์ที่ซ้ำกันและช่วยคุณแปลข้อมูล</string>
  289. <string id="v2_comboElements">ระบุแกนที่ต้องการแสดงและชนิดของแผนภูมิเพื่อใช้สำหรับชุดข้อมูล</string>
  290. <string id="reverseCategoryOrder">ระบุว่าจะเปลี่ยนลำดับของหมวดหมู่ เช่น แท่งในแผนภูมิแท่งหรือไม่ ค่าดีฟอลต์คือ ไม่ ซึ่งหมายความว่าสำหรับแผนภูมิแท่งแนวนอน แท่งจะเริ่มจากด้านล่างขึ้นด้านบน</string>
  291. <string id="extendWidth">ระบุว่าพื้นที่ไปทางด้านกว้างของแผนภูมิ ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อกำหนดพื้นที่ของแผนภูมิพื้นที่เท่านั้น เมื่อแผนภูมิพื้นที่ถูกแปลงเป็นเมทริกของแผนภูมิ คุณสมบัติจะไม่สนับสนุน</string>
  292. <string id="v2_cumulationDefaultLabel">ระบุเลเบลที่จะแสดงกับเส้นการสะสมบนแผนภูมิ Pareto</string>
  293. <string id="v2_chartTextItems">ระบุแหล่งข้อมูลและรูปแบบสำหรับไอเท็มข้อความ หัวเรื่องคำอธิบายสัญลักษณ์ เลเบลของแกน หรือหัวเรื่องของแกน</string>
  294. <string id="labelDisplayType">ระบุวิธีแสดงเลเบลของแกนสำหรับหมวดหมู่ที่ซ้อนกัน แยกเลเบลด้วยเครื่องหมายคอมม่า</string>
  295. <string id="v2_gaugeAxisLine">ระบุคุณสมบัติของเส้นแกนเกจในแผนภูมิเกจ</string>
  296. <string id="v2_gaugeAxisMajorGridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดหลักในแกนเกจของแผนภูมิเกจ</string>
  297. <string id="v2_gaugeAxisMinorGridlines">ระบุคุณสมบัติของเส้นกริดรองในแกนเกจของแผนภูมิเกจ</string>
  298. <string id="tocName">ระบุชื่อที่ระบุสารบัญ</string>
  299. <string id="refToc">ระบุชื่อของสารบัญที่รายการเป็นสมาชิก</string>
  300. <string id="headingLevel">ระบุระดับของส่วนหัวของรายการเนื้อหา</string>
  301. <string id="chartTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องของแผนภูมิหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  302. <string id="chartSubTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องย่อยของแผนภูมิหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  303. <string id="chartFooter">ระบุว่าจะแสดงส่วนท้ายของแผนภูมิหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  304. <string id="v2_chartTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องของแผนภูมิหรือไม่</string>
  305. <string id="v2_chartSubTitle">ระบุว่าจะแสดงหัวเรื่องย่อยของแผนภูมิหรือไม่</string>
  306. <string id="v2_chartFooter">ระบุว่าจะแสดงส่วนท้ายของแผนภูมิหรือไม่</string>
  307. <string id="displayDataLocation">ระบุตำแหน่งที่จะแสดงค่าและเลเบลในแผนภูมิ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  308. <string id="showTooltips">ระบุว่าจะแสดง tooltips ในแผนภูมิหรือไม่เมื่อคุณโฮเวอร์เหนืออิลิเมนต์ข้อมูล ไม่สนับสนุน tooltips ในเอกสาร PDF คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  309. <string id="v2_basicTooltips">ระบุว่าจะแสดง tooltips ในแผนภูมิหรือไม่เมื่อคุณโฮเวอร์เหนืออิลิเมนต์ข้อมูล ไม่สนับสนุน tooltips ในเอกสาร PDF</string>
  310. <string id="v2_pieTooltips">ระบุว่าจะแสดง tooltips ในแผนภูมิวงกลมหรือไม่เมื่อคุณโฮเวอร์เหนืออิลิเมนต์ข้อมูล ไม่สนับสนุน tooltips ในเอกสาร PDF</string>
  311. <string id="v2_combinationTypeTooltips">ระบุว่าจะแสดง tooltips ในแผนภูมิหรือไม่เมื่อคุณโฮเวอร์เหนืออิลิเมนต์ข้อมูล ไม่สนับสนุน tooltips ในเอกสาร PDF</string>
  312. <string id="showPieAxisLabels">ระบุว่าจะแสดงเลเบลวงกลมหรือไม่</string>
  313. <string id="showGaugeAxisLabels">ระบุว่าจะแสดงเลเบลเกจหรือไม่</string>
  314. <string id="showPieValues">ระบุว่าจะแสดงค่าหรือไม่</string>
  315. <string id="showPieLabels">ระบุว่าจะแสดงเลเบลหรือไม่</string>
  316. <string id="v2_pieDataLabels">ระบุลักษณะที่ปรากฎของเลเบลข้อมูลในแผนภูมิวงกลม</string>
  317. <string id="v2_scatterDataLabels">ระบุลักษณะที่ปรากฎของเลเบลข้อมูลในแผนภูมิ scatter</string>
  318. <string id="v2_bubbleDataLabels">ระบุลักษณะที่ปรากฎของเลเบลข้อมูลในแผนภูมิบับเบิล</string>
  319. <string id="v2_dataLabels">ระบุลักษณะที่ปรากฎของเลเบลข้อมูลใน แผนภูมิพื้นที่ แท่ง เส้น Pareto และ progressive</string>
  320. <string id="showValuesAsPercent">ระบว่าจะแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์หรือไม่</string>
  321. <string id="showAbsoluteValues">ระบุว่าจะแสดงค่าสัมบูรณ์แทนค่าสะสม</string>
  322. <string id="showTargetMarkerLabel">ระบุว่าเลเบลสำหรับ Target Marker จะปรากฎในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  323. <string id="showTargetToleranceLabel">ระบุว่าเลเบลสำหรับ Target Tolerance จะปรากฎในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  324. <string id="showTargetRangeLabel">ระบุว่าเลเบลสำหรับ Target Range จะปรากฎในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  325. <string id="chartLabel">แทนที่เลเบลดีฟอลต์สำหรับไอเท็มข้อมูล</string>
  326. <string id="values">ระบุค่าที่จะแสดงในแผนภูมิและระบุว่าจะแสดงการวัดที่สอดคล้อง ชุดข้อมูล หรือเลเบลหมวดหมู่หรือไม่</string>
  327. <string id="avoidLabelCollision">ควบคุมวิธีจัดระเบียบเลเบล ถ้าตั้งค่าเป็น false แผนภูมิจะใช้ตำแหน่งดีฟอลต์ ถ้าตั้งค่าเป็น true แผนภูมิจะใช้โครงร่างอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงเลเบลที่ขัดแย้งกัน เพื่อไม่ให้รายงานที่มีอยู่เปลี่ยนแปลง ให้ตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น false</string>
  328. <string id="expandFeatures">ระบุว่าจะจัดคุณลักษณะให้อยู่กึ่งกลางหรือขยายในแผนภูมิแผนที่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ คุณลักษณะแผนที่จะถูกจัดให้อยู่กึ่งกลางและขยายเพื่อใช้พื้นที่ที่มีอยู่ทั้งหมดในแผนภูมิ เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ คุณลักษณะแผนที่จะไม่ขยาย</string>
  329. <string id="maxHotspots">ระบุจำนวนสูงสุดของฮ็อตสปอตที่สร้างขึ้นในแผนภูมิ ฮ็อตสปอตในแผนภูมิจะปรากฎเมื่อคุณหยุดตัวชี้ไว้เหนือแผนภูมิ ตัวอย่างเช่น ฮ็อตสปอตบนสัญลักษณ์ drill-down หรือ tooltip จะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับคอลัมน์ เส้น หรือส่วนของวงกลม ถ้าระบุไว้ ค่านี้จะแทนที่ค่าติดตั้งคอนฟิกูเรชันฮ็อตสปอตใน IBM® Cognos® Administration</string>
  330. <string id="showMarimekkoValues">ระบุว่าจะแสดงค่าในแผนภูมิหรือไม่</string>
  331. <string id="autoFontSizing">ระบุว่าจะปรับขนาดฟอนต์เพื่อให้พอดีกับเลเบลโดยอัตโนมัติหรือไม่</string>
  332. <string id="showLegend">ระบุว่าจะแสดงคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  333. <string id="showFeelers">ระบุว่าจะแสดงเส้น feeler สำหรับแต่ละมาร์กเกอร์หรือไม่</string>
  334. <string id="showCumulativeLine">ระบุว่าจะแสดงเส้นการสะสมหรือไม่</string>
  335. <string id="showTotalColumn">ระบุว่าจะแสดงคอลัมน์ผลรวมหรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  336. <string id="showProgressiveTotal">ระบุว่าจะแสดงแท่งที่แสดงค่าสะสมทั้งหมดหรือไม่</string>
  337. <string id="showRegressionLine">ระบุว่าจะแสดงเส้นการถดถอยหรือไม่ เส้นการถดถอยเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งที่ประมาณจุดข้อมูลในชุดข้อมูลได้ดีที่สุด</string>
  338. <string id="seriesType">ระบุวิธีที่จะแสดงชุดข้อมูล เช่น สัมบูรณ์ สแต็ก หรือ สแต็ก 100%</string>
  339. <string id="firstColumnColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นเพื่อใช้สำหรับคอลัมน์แรกในแผนภูมิ progressive</string>
  340. <string id="positiveColumnColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นเพื่อใช้สำหรับคอลัมน์ในแผนภูมิ progressive ที่แทนค่าบวก</string>
  341. <string id="negativeColumnColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นเพื่อใช้สำหรับคอลัมน์ในแผนภูมิ progressive ที่แทนค่าลบ</string>
  342. <string id="totalColumnColor">ระบุสี การไล่โทนสี หรือแพตเทิร์นเพื่อใช้สำหรับคอลัมน์ผลรวมในแผนภูมิ progressive</string>
  343. <string id="markerTextLocation">ระบุตำแหน่งที่จะแสดงข้อความของมาร์กเกอร์</string>
  344. <string id="baselines">เพิ่มเส้นอ้างอิงเข้ากับแผนภูมิโดยใช้ตัวเลขหรือค่าสถิติ การคำนวณ หรือการคำนวณโครงร่าง คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  345. <string id="v2_numericBaselines">เพิ่มเส้นอ้างอิงบนแกนตัวเลขของแผนภูมิโดยใช้ตัวเลขหรือค่าสถิติ การคำนวณ หรือการคำนวณโครงร่าง</string>
  346. <string id="v2_ordinalBaselines">เพิ่มเส้นอ้างอิงบนแกนหมวดหมู่ของแผนภูมิโดยใช้ตัวเลขหรือค่าสถิติ การคำนวณ หรือการคำนวณโครงร่าง</string>
  347. <string id="markers">เพิ่มจุดอ้างอิงเข้ากับแผนภูมิโดยใช้ตัวเลขหรือค่าสถิติ การคำนวณ หรือการคำนวณโครงร่าง คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  348. <string id="v2_specialMarkers">ระบุว่าจะแสดงมาร์กเกอร์ค่าพิเศษหรือไม่และวิธีจัดรูปแบบ</string>
  349. <string id="v2_markers">เพิ่มจุดอ้างอิงเข้ากับแผนภูมิโดยใช้ตัวเลขหรือค่าสถิติ การคำนวณ หรือการคำนวณโครงร่าง</string>
  350. <string id="markerSize">ระบุขนาดของมาร์กเกอร์เป็นพอยต์ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงไม่แสดงมาร์กเกอร์</string>
  351. <string id="v2_markerShape">ระบุรูปร่างของสัญลักษณ์มาร์กเกอร์</string>
  352. <string id="labelLocation">ระบุว่าจะแสดงเลเบลในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือในแผนภูมิหรือไม่</string>
  353. <string id="notes">ระบุบล็อกของข้อความที่คุณสามารถกำหนดตำแหน่งบนแผนภูมิ</string>
  354. <string id="gaugePalette">ระบุพาเล็ตที่ควบคุมลักษณะของส่วนหน้าปัดของเกจ</string>
  355. <string id="marimekkoTotals">ระบุว่าจะแสดงผลรวมสำหรับแต่ละคอลัมน์ที่ด้านบนของแผนภูมิหรือไม่</string>
  356. <string id="lineDisplayType">ระบุว่าจะแสดงเส้นและมาร์กเกอร์หรือไม่</string>
  357. <string id="showParetoLine">ระบุว่าจะแสดงเส้นการสะสมในแผนภูมิ Pareto หรือไม่</string>
  358. <string id="v2_paretoLineDataLabels">ระบุว่าจะแสดงเลเบลสำหรับมาร์กเกอร์ข้อมูลบนเส้นการสะสมในแผนภูมิหรือไม่ Pareto</string>
  359. <string id="showYAxis1">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  360. <string id="showYAxis2">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  361. <string id="showXOrdinalAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  362. <string id="showYOrdinalAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  363. <string id="showNumericalAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  364. <string id="showGaugeNumericalAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนตัวเลขของแผนภูมิเกจหรือไม่</string>
  365. <string id="axisY2Position">ระบุวิธีแสดงแกน Y แกนที่สอง เมื่อตั้งค่า Y2 Axis Position เป็น Dual ดังนั้นแกน Y2 จะปรากฎข้ามจากแกนตัวเลข Y1 เมื่อตั้งค่า Y2 Axis Position เป็น Bipolar ดังนั้นแกน Y2 จะปรากฎใต้แกนตัวเลข Y1 ตัวอย่างเช่น ในแผนภูมิรวมที่แสดง Revenue and Quantity sold โดยชนิด Retailer โดยการตั้งค่า Y2 Axis Position เป็น Dual คอลัมน์ Revenue และเส้น Quantity sold จะทับกันเนื่องจากแกน Revenue (Y1) และแกน Quantity sold (Y2) จะข้ามกันไปมา อย่างไรก็ตาม โดยการตั้งค่า Y2 Axis Position เป็น Bipolar คอลัมน์ Revenue จะปรากฎเหนือเส้น Quantity sold และข้อมูลจะไม่ทับกัน คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  366. <string id="showRadialAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  367. <string id="showAngularAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  368. <string id="showProgressiveAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  369. <string id="showOrdinalAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  370. <string id="showYAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  371. <string id="showXAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  372. <string id="showParetoAxis">ระบุว่าจะแสดงแกนหรือไม่</string>
  373. <string id="gaugeNeedle">ระบุขนาดและรูปร่างของเข็มของเกจ แผนภูมิจะมีหนึ่งเข็มสำหรับแต่ละแถวในชุดของข้อมูล เข็มทั้งหมดบนแกนเกจใช้ลักษณะที่ระบุไว้แบบเดียวกัน</string>
  374. <string id="v2_axisColors">ระบุสีของแกนเกจ</string>
  375. <string id="gaugeAxisInnerRadius">ระบุรัศมีภายในของแกนเกจเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าสูงสุดที่อนุญาต</string>
  376. <string id="gaugeAxisOuterRadius">ระบุรัศมีภายนอกของแกนเกจเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าสูงสุดที่อนุญาต</string>
  377. <string id="gaugeAxisJustification">ระบุว่าเลเบลข้อมูลจะถูกจัดเข้ากับภายในหรือภายนอกของแกนเกจ</string>
  378. <string id="gaugeAxisTextOrientation">ระบุการจัดวางข้อความบนแกนเกจ</string>
  379. <string id="xAxisPosition_dataItemValue">ระบุตำแหน่งมาร์กเกอร์ scatter บนแกน X</string>
  380. <string id="yAxisPosition_dataItemValue">ระบุตำแหน่งมาร์กเกอร์ scatter บนแกน Y</string>
  381. <string id="xPos_offsetStdDev">ระบุระยะห่างจากค่าเฉลี่ยในการเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่านี้สามารถเป็นค่าบวกหรือค่าลบ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงค่าเฉลี่ย</string>
  382. <string id="xPos_percentile">ระบุตำแหน่งโดยใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ของข้อมูล ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  383. <string id="xPos_percentAlongAxis">ระบุตำแหน่งโดยใช้เปอร์เซ็นต์ตามแกนตัวเลข ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  384. <string id="xPos_numericPosition_type">ระบุชนิดของตำแหน่งที่เป็นตัวเลขบนแกน X คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  385. <string id="xPos_numericPosition_number">ระบุค่าของตำแหน่งที่เป็นตัวเลข</string>
  386. <string id="xPos_numericPosition_dataItemValue">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขของไอเท็มข้อมูล</string>
  387. <string id="xPos_numericPosition_reportexpr">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขจากนิพจน์รายงาน</string>
  388. <string id="xPos_numericPosition_expr">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขสำหรับมาร์กเกอร์ข้อมูลในแผนภูมิ scatter</string>
  389. <string id="yPos_offsetStdDev">ระบุระยะห่างจากค่าเฉลี่ยในการเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่านี้สามารถเป็นค่าบวกหรือค่าลบ ค่าที่เป็นศูนย์หมายถึงค่าเฉลี่ย</string>
  390. <string id="yPos_percentile">ระบุตำแหน่งโดยใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ของข้อมูล ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  391. <string id="yPos_percentAlongAxis">ระบุตำแหน่งโดยใช้เปอร์เซ็นต์ตามแกนตัวเลข ค่านี้ต้องมากกว่าศูนย์</string>
  392. <string id="yPos_numericPosition_type">ระบุชนิดของตำแหน่งที่เป็นตัวเลข</string>
  393. <string id="yPos_numericPosition_number">ระบุค่าของตำแหน่งที่เป็นตัวเลข</string>
  394. <string id="yPos_numericPosition_dataItemValue">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขของไอเท็มข้อมูล</string>
  395. <string id="yPos_numericPosition_reportexpr">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขจากนิพจน์รายงาน</string>
  396. <string id="yPos_numericPosition_expr">ระบุตำแหน่งที่เป็นตัวเลขสำหรับมาร์กเกอร์ข้อมูลในแผนภูมิ scatter</string>
  397. <string id="autoSort">เมื่อรันรายงาน ให้ระบุว่าจะเรียงลำดับโดยใช้ชนิดข้อมูลโดยอัตโนมัติหรือไม่</string>
  398. <string id="queryProcessing">ระบุว่าเซิร์ฟเวอร์รายงาน IBM® Cognos® จะเลือกจำนวนของการประมวลผลที่น้อยที่สุดหรือไม่ การประมวลผลโลคัลจะเกิดขึ้นเฉพาะถ้าฐานข้อมูลไม่สามารถจัดการกับโหลดได้ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแหล่งข้อมูลเชิงมิติ หรือ OLAP</string>
  399. <string id="avoidZeroDiv">ระบุว่าแอ็พพลิเคชันจะส่งคืนค่า null เมื่อพบว่ามีการหารด้วยศูนย์หรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้กับแหล่งข้อมูลเชิงสัมพันธ์เท่านั้น</string>
  400. <string id="rollupProcessing">ระบุตำแหน่งที่จะคำนวณการรวม ค่าติดตั้ง Extended หมายความว่าการรวมจะถูกคำนวณโดยใช้การดำเนินการรวมแบบขยาย ค่าติดตั้ง Database หมายความว่าการรวมจะถูกคำนวณโดยซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล ค่าติดตั้ง Local หมายความว่าการรวมจะถูกคำนวณโดยซอฟต์แวร์การดึงข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์รายงาน โดยใช้การรวมที่รันอยู่</string>
  401. <string id="executionOptimization">ระบุจำนวนของการประมวลผลเคียวรีที่ไคลเอ็นต์ดำเนินการและจำนวนที่เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลดำเนินการ ถ้าเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลสามารถดำเนินการการประมวลผลเคียวรีทั้งหมด เซิร์ฟเวอร์จะเป็นผู้ดำเนินการ</string>
  402. <string id="maxRowsRetrieved">ระบุจำนวนของแถวของฐานข้อมูลที่น้อยที่สุดที่เคียวรีสามารถดึงได้ ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน ถ้าจำนวนของแถวของฐานข้อมูลที่ส่งคืนเกินกว่าค่าที่ระบุไว้ ถ้าไม่ได้ระบุค่า จะไม่มีข้อผิดพลาดที่ถูกส่งคืนและเคียวรีจะส่งคืนแถวทั้งหมด</string>
  403. <string id="maxTablesPerQuery">ระบุจำนวนสูงสุดของตารางที่เคียวรีสามารถดึงได้ ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน ถ้าจำนวนของตารางใน IBM® Cognos® SQL ที่สร้างขึ้นเกินค่าที่ระบุไว้ ถ้าไม่ได้ระบุค่า จะไม่มีข้อผิดพลาดที่ถูกส่งคืนและไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนของตารางที่สามารถเคียวรีได้</string>
  404. <string id="maxQueryExecutionTime">ระบุช่วงเวลาสูงสุดในหน่วยวินาที ที่เคียวรีสามารถใช้เพื่อเปิดเคอร์เซอร์ฐานข้อมูลและเพื่อดึงข้อมูลแถวแรก ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน ถ้าเกินเวลาที่ระบุไว้ โปรดสังเกตว่าคุณสมบัตินี้ใช้ไม่ได้สำหรับเวลาทั้งหมดที่ต้องการเพื่อเรียกใช้เคียวรี ถ้าไม่ได้ระบุค่า จะไม่มีข้อผิดพลาดที่ถูกส่งคืนและเคียวรีจะรันจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์</string>
  405. <string id="maxTextBlobCharacters">ระบุจำนวนสูงสุดของอักขระที่อนุญาตให้เคียวรีดึงได้สำหรับแต่ละ BLOB ข้อความ ข้อผิดพลาดจะถูกส่งคืน ถ้าจำนวนของอักขระที่ดึงเกินกว่าค่าที่ระบุไว้ ถ้าไม่ได้ระบุค่า จะไม่มีข้อผิดพลาดที่ถูกส่งคืนและ BLOB ข้อความสามารถเป็นขนาดใดก็ได้</string>
  406. <string id="outerJoinAllowed">ระบุว่าอนุญาตให้มีการรวมภายนอกบนอ็อบเจ็กต์หรือไม่ คุณสมบัตินี้ใช้กับเคียวรีเดียวและแทนที่ค่าติดตั้งใน IBM® Cognos® Framework Manager, เครื่องมือการสร้างโมเดล</string>
  407. <string id="crossProductAllowed">ระบุว่าจะอนุญาตให้เคียวรีรันถ้ามีการรวมข้ามระหว่างตารางฐานข้อมูลหรือไม่ เคียวรีชนิดนี้จะสร้างชุดของผลลัพธ์ที่มีการรวมค่าเฉพาะที่เป็นไปได้ทั้งหมดจากตารางแรกและตารางที่สอง ค่าดีฟอลต์คือ Deny</string>
  408. <string id="useSQLWithClause">ระบุว่าจะส่งคำร้องขอไปยังฐานข้อมูลโดยใช้ประโยค SQL WITH หรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ และถ้าฐานข้อมูลสนับสนุนประโยค WITH คำร้องขอประโยค WITH จะถูกสร้างขึ้น เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ หรือถ้าฐานข้อมูลไม่สนับสนุนประโยค WITH คำร้องขอโดยใช้ตารางที่สืบทอดมาจะถูกสร้างขึ้น</string>
  409. <string id="localCache">ระบุว่าเคียวรีเป็นตัวเลือกสำหรับการใช้ชุดผลลัพธ์เคียวรีซ้ำหรือไม่ ถ้าตั้งค่าเป็น ใช่ เอ็นจินเคียวรีสามารถใช้ผลลัพธ์ของ SQL จากแคชที่มีอยู่ซ้ำ ถ้าตั้งค่าเป็น ไม่ เคียวรีจะถูกเรียกทำงานแทนที่จะใช้ผลลัพธ์ที่แคชไว้ คุณสมบัตินี้ใช้ได้เฉพาะกับแหล่งข้อมูลเชิงสัมพันธ์และแหล่งข้อมูล dimensionally-modeled relational (DMR)</string>
  410. <string id="refreshOnPrompt">ระบุว่าเคียวรีจะเรียกทำงานอีกครั้งหรือไม่เมื่อมีการดำเนินการคำร้องขอพร้อมต์ หากตั้งค่าเป็น Yes เคียวรีนี้หรือเคียวรีใดๆ ที่ได้มาจากเคียวรีนี้จะถูกเรียกทำงานใหม่เมื่อมีการดำเนินการคำร้องขอพร้อมต์ เช่น forward, backward หรือ reprompt หากตั้งค่าเป็น No เคียวรีจะเรียกทำงานใหม่หากขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ที่ค่ามีการเปลี่ยนแปลงระหว่างคำร้องขอพร้อมต์</string>
  411. <string id="suppress">ระบุชนิดของการยับยั้งเพื่อใช้กับผลลัพธ์ของเคียวรี คุณสมบัตินี้จะแทนที่ SAP BW governor ที่สอดคล้องในโมเดล ถ้าไม่ได้ระบุ จะใช้ค่าของ governor ที่สอดคล้องในโมเดล</string>
  412. <string id="executionMethod">ระบุว่าเคียวรีจะเป็นตัวเลือกที่จะรันพร้อมกันหรือไม่ ถ้าตั้งค่าเป็น Concurrent เคียวรีอาจยังเรียกใช้งานตามลำดับโดยใช้ปัจจัยอื่น ถ้าไม่ได้ตั้งค่าอย่างชัดเจน เคียวรีจะถูกเรียกใช้ตามลำดับ การเรียกใช้เคียวรีพร้อมกันอาจเพิ่มประสิทธิ์ภาพได้ในบางกรณี</string>
  413. <string id="useV4Interpretation">ระบุว่าจะใช้ semantics เคียวรีของ IBM® Cognos® ReportNet® ถ้าเคียวรีแตกต่างจากกฎเคียวรีของ IBM Cognos Business Intelligence</string>
  414. <string id="useForParameterInfo">ระบุว่าควรระบุลำดับความสำคัญของเคียวรีเมื่อตรวจสอบข้อมูลพารามิเตอร์หรือไม่ เคียวรีที่ตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น ใช่ จะถูกตรวจสอบข้อมูลพารามิเตอร์ก่อน ตามด้วยเคียวรีที่ตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น Default เคียวรีที่ตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น ไม่ จะไม่ถูกตรวจสอบข้อมูลพารามิเตอร์จนกว่าจะถูกอ้างถึงในเคียวรีที่จะถูกตรวจสอบ การตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็น ใช่ บนเคียวรีที่ใช้พารามิเตอร์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงหน้าพร้อมต์</string>
  415. <string id="useAggregateCache">สำหรับแหล่งข้อมูล SAP BW ให้ระบุว่าจะใช้แคชการรวมหรือไม่ แนะนำให้ใช้ค่าดีฟอลต์</string>
  416. <string id="useSAPMUNAsBusinessKey">ระบุว่าจะส่งคืน SAP MUN แบบเต็มเป็นค่าสำหรับคีย์ทางธุรกิจหรือไม่ ใช้คำแนะนำเคียวรีนี้เพื่ออนุญาตให้ drill-down บนคีย์ทางธุรกิจสำหรับสมาชิกแบบ non-leaf ของลำดับชั้นภายนอก เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ MUN จะปรากฎในเอาต์พุตของรายงาน</string>
  417. <string id="cacheServerQuery">ส่งสัญญาณไปยังผู้ให้บริการ SAP BW ว่าเคียวรีที่เชื่อมโยงกับคุณสมบัตินี้จะถูกแคชไปยังแคชสมาชิก IBM® Cognos® Business Intelligence หรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ แคชสมาชิกจะถูกเติมด้วยมิติในเคียวรี เข้ารหัส และบันทึกไว้สำหรับใช้ในภายหลัง</string>
  418. <string id="useSQLParameters">ระบุว่า SQL ที่สร้างขึ้นใช้มาร์กเกอร์พารามิเตอร์หรือค่าตัวอักษร เมื่อตั้งค่าเป็น Marker จะระบุว่า SQL ที่สร้างขึ้นใช้มาร์กเกอร์เพื่อแสดงว่าค่าจะถูกป้อนในภายหลัง เมื่อตั้งค่าเป็น Literal จะใช้ค่าตัวอักษรใน SQL ที่สร้างขึ้น ถ้าไม่ได้ระบุ เซิร์ฟเวอร์จะกำหนดลักษณะการทำงาน</string>
  419. <string id="border">ระบุความกว้าง ลักษณะ และสีสำหรับขอบของอ็อบเจ็กต์</string>
  420. <string id="borders">ระบุว่าจะแสดงขอบรอบส่วนของแผนภูมิหรือไม่</string>
  421. <string id="padding">ระบุช่องว่างระหว่างอ็อบเจ็กต์และระยะขอบ ถ้ามีขอบ ดังนั้นจะระบุช่องว่างระหว่างอ็อบเจ็กต์และขอบ</string>
  422. <string id="margin">ระบุคุณสมบัติของระยะขอบสำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  423. <string id="display">แต่ละอ็อบเจ็กต์รายงานมีคอนเทนเนอร์ หรือกล่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าเพื่อแสดงเนื้อหา (ดีฟอลต์) หรือไม่ คุณสมบัตินี้ระบุว่าจะแทนที่ชนิดของกล่องดีฟอลต์สำหรับอ็อบเจ็กต์หรือไม่</string>
  424. <string id="simpleDisplay">แต่ละอ็อบเจ็กต์รายงานมีคอนเทนเนอร์ หรือกล่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าเพื่อแสดงเนื้อหา (ดีฟอลต์) หรือไม่ คุณสมบัตินี้ระบุว่าจะแทนที่ชนิดของกล่องดีฟอลต์สำหรับอ็อบเจ็กต์หรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น None จะไม่แสดงอ็อบเจ็กต์และพื้นที่ว่างจะไม่ถูกสงวนไว้ในรายงาน</string>
  425. <string id="pieBorderColor">ระบุสีของขอบรอบส่วนของแผนภูมิในแผนภูมิวงกลม</string>
  426. <string id="pieBorders">ระบุว่าจะแสดงขอบรอบส่วนของแผนภูมิในแผนวงกลมหรือไม่</string>
  427. <string id="v2_plotArea">ระบุสีที่ใช้เติมและเอฟเฟ็กต์สำหรับพื้นที่พล็อตของแผนภูมิ</string>
  428. <string id="fillEffects">ระบุเอฟเฟ็กต์ของการเติมสำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  429. <string id="background-image">ระบุรูปภาพที่จะใช้เป็นพื้นหลังสำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  430. <string id="background-color">ระบุสีพื้นหลังสำหรับอ็อบเจ็กต์</string>
  431. <string id="color">ระบุสีของข้อความของอ็อบเจ็กต์</string>
  432. <string id="generatedBackground">ระบุคุณสมบัติของพื้นหลัง คุณสามารถเพิ่มเอฟเฟ็กต์พื้นหลังเฉพาะกับอ็อบเจ็กต์ที่มีความสูงและความกว้างที่คงที่ ถ้ามีการระบุขนาดเป็นเปอร์เซ็นต์ เอฟเฟ็กต์จะถูกข้าม</string>
  433. <string id="containerDropShadow">กำหนดเงาที่แสดงรอบคอนเทนเนอร์</string>
  434. <string id="v2_chartDropShadow">ระบุว่าจะแสดงเงาบนแผนภูมิหรือไม่และวิธีแสดง</string>
  435. <string id="pageGradient">ระบุการไล่โทนสีสำหรับหน้า</string>
  436. <string id="chartPalette">ระบุพาเล็ตที่ต้องการใช้สำหรับแผนภูมิ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  437. <string id="v2_chartPalette">ระบุพาเล็ตสีสำหรับแผนภูมิ</string>
  438. <string id="v2_progressivePalette">ระบุพาเล็ตสีในแผนภูมิ progressive</string>
  439. <string id="numericChartPalette">เลเยอร์แผนที่ใช้พาเล็ตตัวเลขที่สีของขอบเขตและพอยต์ใช้ค่าที่เป็นตัวเลข</string>
  440. <string id="conditionalPalette">ระบุพาเล็ตแบบมีเงื่อนไขสำหรับแผนภูมิ คุณสมบัตินี้ใช้เฉพาะกับแผนภูมิแบบแบบดั้งเดิม</string>
  441. <string id="v2_conditionalPalette">ระบุพาเล็ตแบบมีเงื่อนไขสำหรับแผนภูมิ</string>
  442. <string id="v2_coloredRegions">ระบุของภูมิภาคที่เป็นสีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แสดงในส่วนของแผนภูมิเพื่อไฮไลต์ส่วนของแผนภูมิ ภูมิภาคจะถูกแสดงด้านหลังมาร์กเกอร์ข้อมูล ภูมิภาคจะถูกแสดงในลำดับเดียวกับที่ปรากฎในคุณสมบัตินี้ ภูมิภาคแรกจะถูกแสดงก่อนที่ด้านล่าง และภูมิภาคสุดท้ายจะถูกวาดที่ด้านบนสุดของภูมิภาคอื่น</string>
  443. <string id="RegionTop_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านบนของภูมิภาคที่เป็นสี</string>
  444. <string id="RegionBottom_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านล่างของภูมิภาคที่เป็นสี</string>
  445. <string id="RegionLeft_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านซ้ายของภูมิภาคที่เป็นสี</string>
  446. <string id="RegionRight_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านขวาของภูมิภาคที่เป็นสี</string>
  447. <string id="RegionEnd_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านหนึ่งของภูมิภาคที่เป็นสีตามแกนที่เป็นตัวเลข ภูมิภาคจะขยายจากตำแหน่งที่กำหนดไว้ใน Start Position ไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ในคุณสมบัตินี้ ค่าที่ระบุไว้ในคุณสมบัตินี้ต้องมากกว่าค่าที่ระบุใว้ในคุณสมบัติ Start Position</string>
  448. <string id="RegionStart_dataItemValue">ระบุตำแหน่งของขอบด้านหนึ่งของภูมิภาคที่เป็นสีตามแกนที่เป็นตัวเลข ภูมิภาคจะขยายจากตำแหน่งที่กำหนดไว้ในคุณสมบัตินี้ไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ในคุณสมบัติ End Position ค่าที่คุณระบุในคุณสมบัตินี้ต้องน้อยกว่าค่าที่ระบุในคุณสมบัติ End Position</string>
  449. <string id="v2_dialFace">ระบุสีที่ใช้เติมและเอฟเฟ็กต์สำหรับหน้าปัดของแผนภูมิเกจ</string>
  450. <string id="font">ระบุตระกูลของฟอนต์ ขนาด น้ำหนัก ลักษณะ และเอฟเฟ็กต์ที่ใช้เพื่อแสดงข้อความของอ็อบเจ็กต์</string>
  451. <string id="summaryText">ระบุข้อความสรุปสำหรับอ็อบเจ็กต์แบบ table-like ใช้เพื่อทำให้รายงานของคุณสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องอ่านหน้าจอ ข้อความสรุปจะไม่แสดงในเว็บเบราว์เซอร์ที่เห็นได้ ข้อความสรุปจะใช้สำหรับเครื่องอ่านหน้าจอและเบราว์เซอร์คำพูดเท่านั้น ตั้งค่าคุณสมบัตินี้เฉพาะบนตารางที่ใช้เพื่อแสดงข้อมูล และไม่ตั้งค่าบนตารางที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์โครงร่าง เมื่อต้องการให้อ็อบเจ็กต์ตารางทำงานเป็นตารางข้อมูล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเซลล์ของตารางหนึ่งเซลล์ขึ้นไปมีการตั้งค่าคุณสมบัติส่วนหัวตารางเป็น ใช่</string>
  452. <string id="alternateText">ระบุข้อความอื่นสำหรับอ็อบเจ็กต์ที่ไม่ใช่ข้อความ เช่น รูปภาพและแผนภูมิ ใช้เพื่อทำให้ผู้ที่ใช้เครื่องอ่านหน้าจอสามารถเข้าถึงรายงานได้</string>
  453. <string id="text-align">ระบุวิธีการจัดวางเนื้อหาของอ็อบเจ็กต์ที่เลือกในแนวนอน</string>
  454. <string id="vertical-align_inline">ระบุวิธีจัดวางอ็อบเจ็กต์นี้ในแนสตั้ง โดยสัมพันธ์กับอ็อบเจ็กต์อื่น</string>
  455. <string id="vertical-align">ระบุวิธีจัดวางอ็อบเจ็กต์ที่อยู่ในอ็อบเจ็กต์นี้ในแนวตั้ง</string>
  456. <string id="white-space">ระบุวิธีจัดการกับที่ว่างภายในอ็อบเจ็กต์และระบุว่าข้อความในอ็อบเจ็กต์จะขึ้นบรรทัดใหม่หรือแสดงบนบรรทัดเดียว คำว่าที่ว่างหมายถึงที่ว่างระหว่างคำ ที่ข้อความสามารถขึ้นบรรทัดใหม่ได้</string>
  457. <string id="SpacingAndBreaking">ระบุคุณสมบัติของข้อความ เช่น ความสูงของบรรทัด ช่องว่างระหว่างตัวอักษร และการแยกคำ</string>
  458. <string id="TextFlowAndJustification">ระบุคุณสมบัติของโฟลว์ของข้อความ เช่น ทิศทาง โหมดการเขียนและการแสดงตามสมควร</string>
  459. <string id="DimensionsAndOverflow">ระบุความสูงและความกว้างของอ็อบเจ็กต์ รวมถึงวิธีจัดการกับข้อความที่เกิน โดยใช้แถบเลื่อนและ clipping</string>
  460. <string id="DimensionsAndOverflowAbsolute">ระบุความสูงและความกว้างสัมบูรณ์ของอ็อบเจ็กต์ รวมถึงวิธีจัดการกับข้อความที่เกิน โดยใช้แถบเลื่อนและ clipping</string>
  461. <string id="float">ระบุวิธีที่อ็อบเจ็กต์โฟลว์รอบอ็อบเจ็กต์</string>
  462. <string id="visibility">ระบุว่าต้องการแสดงอ็อบเจ็กต์หรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ อ็อบเจ็กต์จะถูกซ่อนแต่จะจองพื้นที่ว่างที่แน่นอนไว้ในรายงาน</string>
  463. <string id="TableProperties">ระบุคุณสมบัติสำหรับอ็อบเจ็กต์ตาราง</string>
  464. <string id="dataItem_name">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  465. <string id="dataItem_label">ระบุเลเบลของอ็อบเจ็กต์</string>
  466. <string id="dataItem_type">ระบุชนิดของอ็อบเจ็กต์</string>
  467. <string id="expression">ระบุนิพจน์ที่ใช้เพื่อเติมไอเท็มข้อมูล</string>
  468. <string id="aggregate">ระบุชนิดของการที่ต้องการใช้ ค่าติดตั้ง Automatic หมายความว่าแอ็พพลิเคชันจะจัดกลุ่มหรือสรุปโดยใช้ชนิดข้อมูล ค่าติดตั้ง Summarize หมายความว่าจะใช้ค่าติดตั้งที่พบในโมเดลเพื่อกำหนดชนิดของการรวม ค่าติดตั้งดีฟอลต์คือ Automatic</string>
  469. <string id="rollupAggregate">ระบุชนิดของการรวมเพื่อใช้กับค่าการสรุป ค่าเหล่านี้จะปรากฎที่ระดับสูงของรายการและอ้างอิงไขว้ สำหรับแหล่งข้อมูล OLAP ฟังก์ชัน rollup aggregate ของ Count Distinct สนับสนุนสำหรับระดับและชุดของสมาชิกเท่านั้น</string>
  470. <string id="aggregateDataItem">ระบุไอเท็มข้อมูลที่ใช้เพื่อคำนวณการสรุปหรือการรวม</string>
  471. <string id="aggregateMethod">ระบุชนิดของการสรุปและการรวมที่ใช้</string>
  472. <string id="aggregateMethodList">ระบุชนิดของการสรุปและการรวมที่ใช้</string>
  473. <string id="useSetAggregation">ระบุประโยคการรวมที่ใช้เพื่อคำนวณการสรุป เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ จะใช้ประโยคการรวมภายในชุด เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ จะใช้ประโยคการรวมภายในรายละเอียด</string>
  474. <string id="sort">เรียงลำดับข้อมูลที่ใช้โดยเคียวรีเพื่อสร้างคิวบ์ชั่วคราวเมื่อต้องการ เช่น สำหรับอ้างอิงไขว้กับแหล่งข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คุณสมบัตินี้จะมีผลกับลำดับดีฟอลต์ของระดับที่ถูกเติมจากไอเท็มข้อมูล</string>
  475. <string id="prePopulateIfParentOptional">ระบุว่าจะเติมตัวควบคุมได้ค่าไว้ล่วงหน้า แต่เฉพาะถ้าพาเรนต์ของการควบคุมพร้อมต์นี้เป็นอ็อพชันเท่านั้น ซึ่งใช้กับเฉพาะการควบคุมพร้อมต์ที่มีพาเรนต์ใน cascade เท่านั้น</string>
  476. <string id="naInCalcMemberContext">ระบุว่าจะยับยั้งค่าที่ถูกคำนวณที่เกิดขึ้นที่ส่วนตัดของสมาชิกที่ถูกคำนวณของแหล่งข้อมูลและสมาชิกที่ถูกคำนวณของเคียวรีที่กำหนดไว้ เมื่อค่าถูกยับยั้ง อักขระที่ระบุไว้สำหรับรูปแบบข้อมูลอักขระ Not Applicable จะปรากฎในเซลล์</string>
  477. <string id="prePopulateLevels">ระบุจำนวนของระดับเพื่อเติมพร้อมต์ไว้ล่วงหน้า ค่าดีฟอลต์คือ 1 ซึ่งจะเติมพร้อมต์ไว้ล่วงหน้าด้วยสมาชิก root เท่านั้น</string>
  478. <string id="useDetailValue">ระบุว่าจะแสดงค่ารายละเอียดหรือค่ารวมสำหรับไอเท็มข้อความที่ใช้ไอเท็มข้อมูลเป็นซอร์ส ใช้คุณสมบัตินี้เฉพาะเมื่อคุณต้องการแสดงค่าที่ปรากฎในแถวรายละเอียดแถวแรกหรือแถวสุดท้ายของรายการ, repeater หรือตาราง repeater บนหน้าเดียวกันกับไอเท็มข้อความ</string>
  479. <string id="refHierarchy">ระบุการอ้างอิงถึงลำดับชั้น คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  480. <string id="refDimension">ระบุการอ้างอิงถึงมิติ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  481. <string id="refLevel">ระบุการอ้างอิงถึงระดับ คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  482. <string id="refMember">ระบุการอ้างอิงถึงสมาชิก คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  483. <string id="refProperty">ระบุการอ้างอิงถึงคุณสมบัติของสมาชิก คุณไม่สามารถแก้ไขค่านี้</string>
  484. <string id="rootMembersOnly">ระบุว่าชุดมีสมาชิก root หรือสมาชิกทั้งหมดของลำดับชั้น</string>
  485. <string id="HUN">ระบุ Hierarchy Unique Name (HUN) ของลำดับชั้นที่ไอเท็มข้อมูลเป็นสมาชิก</string>
  486. <string id="LUN">ระบุ Level Unique Name (LUN) ของระดับที่ไอเท็มข้อมูลเป็นสมาชิก</string>
  487. <string id="MUN">ระบุ Member Unique Name (MUN) ของสมาชิก</string>
  488. <string id="MPUN">ระบุ Member Property Unique Name (MPUN) ของคุณสมบัติของสมาชิก</string>
  489. <string id="setSorting">ระบุวิธีที่จัดเก็บชุด โดยดีฟอลต์ ชุดจะไม่ถูกจัดเก็บ</string>
  490. <string id="TupleMembers">ระบุสมาชิกของส่วนตัดกัน (tuple)</string>
  491. <string id="pageSetName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  492. <string id="pageName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  493. <string id="queryName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  494. <string id="dimensionName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  495. <string id="levelName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  496. <string id="factName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  497. <string id="memberSetName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  498. <string id="classes">ระบุคลาสเพื่อใช้กับอ็อบเจ็กต์ คลาสจะจัดเตรียมลักษณะดีฟอลต์ ถ้าคุณใช้มากกว่าหนึ่งคลาส คุณสมบัติของลักษณะจากคลาสทั้งหมดจะถูกผนวกเข้าด้วยกันเมื่อนำคุณสมบัติมาใช้งาน อย่างไรก็ตาม ถ้าคลาสมีคุณสมบัติของลักษณะร่วมกัน คุณสมบัติของลักษณะจากคลาสสุดท้ายจะแทนที่คุณสมบัติจากคลาสก่อนหน้านี้</string>
  499. <string id="name">ระบุชื่อที่ไม่ซ้ำกันที่อนุญาตให้ใช้อ็อบเจ็กต์โครงร่างซ้ำ โดยทั่วไปเพื่อใช้ประโยชน์ของการจัดรูปแบบใด ๆ ที่นำมาใช้</string>
  500. <string id="variableName">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์</string>
  501. <string id="layoutComponentName">ระบุชื่อที่ไม่ซ้ำกันที่อนุญาตให้ใช้อ็อบเจ็กต์โครงร่างซ้ำ โดยทั่วไปเพื่อใช้ประโยชน์ของการกำหนดลักษณะใด ๆ ที่นำมาใช้</string>
  502. <string id="performancePattern">ควบคุมส่วนของมาร์กเกอร์ช่วงสำหรับ tolerance และช่วงเป้าหมายที่จะแสดงบนแผนภูมิเมทริก</string>
  503. <string id="markerColor">ระบุสีของมาร์กเกอร์ค่าเป้าหมายในแผนภูมิเมทริก</string>
  504. <string id="toleranceColor">ระบุสีสำหรับเส้นแนวตั้งที่ทำเครื่องหมายช่วง tolerance สำหรับค่าการวัดเป้าหมายในแผนภูมิเมทริก</string>
  505. <string id="targetRange">ระบุช่วงเป้าหมายที่อยู่กึ่งกลางรอบค่าการวัดเป้าหมาย</string>
  506. <string id="targetColor">ระบุสีสำหรับเส้นแนวตั้งที่ทำเครื่องหมายช่วงเป้าหมายสำหรับค่าการวัดเป้าหมายในแผนภูมิเมทริก</string>
  507. <string id="targetBorderColor">ระบุสีของเส้นขอบรอบค่าเป้าหมายในแผนภูมิเมทริก</string>
  508. <string id="skew">ระบุเปอร์เซ็นต์ที่มีผลกับการวางตำแหน่งของแถบและช่วง tolerance โดยยึดตามค่าเป้าหมาย</string>
  509. <string id="showTargetMarker">ระบุว่าจะแสดงตัวบ่งชี้สถานะในคำอธิบายสัญลักษณ์หรือไม่</string>
  510. <string id="targetMarkerPosition">ระบุว่าจะแสดงตัวบ่งชี้สถานะบนแถบแรกในคลัสเตอร์หรือกึ่งกลางของคลัสเตอร์ ใช้ไม่ได้กับแผนภูมิสแต็ก</string>
  511. <string id="choicesText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องตัวเลือกเมื่อเปิดใช้งานการเลือกหลายรายการ คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: ค่า กล่องข้อความ วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา ช่วงเวลา และเลือก &amp; การค้นหา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Choices</string>
  512. <string id="resultsText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องผลลัพธ์ในพร้อมต์เลือก &amp; ค้นหา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Results</string>
  513. <string id="keywordsText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องค้นหาคีย์เวิร์ดในพร้อมต์เลือก &amp; ค้นหา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Keywords</string>
  514. <string id="searchInstructionsText">ระบุคำแนะนำที่ปรากฎด้านบนของกล่องค้นหาคีย์เวิร์ดในพร้อมต์เลือก &amp; ค้นหา ข้อความดีฟอลต์เป็นดังนี้: พิมพ์ดีฟอลต์หนึ่งคำหรือมากกว่าคั่นด้วยช่องว่าง</string>
  515. <string id="fromText">ระบุเลเบลที่ปรากฎข้าง ๆ จุดเริ่มต้นของช่วง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา และช่วงเวลา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ From</string>
  516. <string id="toText">ระบุเลเบลที่ปรากฎข้าง ๆ จุดสิ้นสุดของช่วง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา และช่วงเวลา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ To</string>
  517. <string id="lowestValueText">ระบุเลเบลที่ปรากฎข้าง ๆ อ็อพชันค่าที่น้อยที่สุดเมื่อเปิดใช้งานช่วง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา ค่า กล่องข้อความ และช่วงเวลา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Earliest date, Earliest time หรือ Lowest interval</string>
  518. <string id="highestValueText">ระบุเลเบลที่ปรากฎข้าง ๆ อ็อพชันค่าที่มากที่สุดเมื่อเปิดใช้งานช่วง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา ค่า กล่องข้อความ และช่วงเวลา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Latest date, Latest time หรือ Highest interval</string>
  519. <string id="choicesSelectAllText">ระบุข้อความสำหรับลิงก์ที่อยู่ใต้กล่องตัวเลือกที่เลือกไอเท็มทั้งหมดในกล่อง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ทั้งหมดที่มีการเลือกหลายรายการและช่วงหรือการเลือกหลายรายการและการค้นหา ข้อความลิงก์ดีฟอลต์ คือ Select All</string>
  520. <string id="choicesDeselectAllText">ระบุข้อความสำหรับลิงก์ที่อยู่ใต้กล่องตัวเลือกที่ยกเลิกการเลือกไอเท็มทั้งหมดในกล่อง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ทั้งหมดที่มีการเลือกหลายรายการและช่วงหรือการเลือกหลายรายการและการค้นหา ข้อความลิงก์ดีฟอลต์ คือ Deselect All</string>
  521. <string id="resultsSelectAllText">ระบุข้อความสำหรับลิงก์ที่อยู่ใต้กล่องผลลัพธ์ที่เลือกไอเท็มทั้งหมดในกล่อง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ทั้งหมดที่มีการเลือกหลายรายการและการค้นหา พร้อมต์แผนผัง และพร้อมต์ค่า ข้อความลิงก์ดีฟอลต์ คือ Select All</string>
  522. <string id="resultsDeselectAllText">ระบุข้อความสำหรับลิงก์ที่อยู่ใต้กล่องผลลัพธ์ที่ยกเลิกการเลือกไอเท็มทั้งหมดในกล่อง คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ทั้งหมดที่มีการเลือกหลายรายการและการค้นหา พร้อมต์แผนผัง และพร้อมต์ค่า ข้อความลิงก์ดีฟอลต์ คือ Deselect All</string>
  523. <string id="deselectText">ระบุข้อความที่ยกเลิกการเลือกไอเท็มเมื่อการเลือกเป็นอ็อพชัน คุณสมบัตินี้ใช้กับพร้อมต์ชนิดต่อไปนี้: กล่องข้อความ วันที่ วันที่ &amp; เวลา เวลา ช่วงเวลา ค่า เลือก &amp; ค้นหา และแผนผัง ข้อความลิงก์ดีฟอลต์ คือ Deselect All</string>
  524. <string id="optionsText">ระบุข้อความสำหรับลิงก์อ็อพชันพร้อมต์เพิ่มเติมในพร้อมต์เลือก &amp; ค้นหา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Options</string>
  525. <string id="searchText">ระบุเลเบลที่ปรากฎบนปุ่ม ค้นหา ในพร้อมต์เลือก &amp; ค้นหา ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Search</string>
  526. <string id="insertText">ระบุเลเบลที่ปรากฎบนปุ่มที่ใช้เพื่อเพิ่มไอเท็มเข้ากับกล่องไอเท็มที่เลือกในพร้อมต์การเลือกหลายรายการทั้งหมด ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Insert</string>
  527. <string id="removeText">ระบุเลเบลที่ปรากฎบนปุ่มที่ใช้เพื่อลบไอเท็มออกจากกล่องไอเท็มที่เลือกในพร้อมต์การเลือกหลายรายการทั้งหมด ข้อความเลเบลดีฟอลต์ คือ Remove</string>
  528. <string id="daysText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องวันในพร้อมต์ช่วงเวลา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Days</string>
  529. <string id="hoursText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องชั่วโมงในพร้อมต์ช่วงเวลา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Hrs</string>
  530. <string id="minutesText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องนาทีในพร้อมต์ช่วงเวลา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ Mins</string>
  531. <string id="secondsText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องวินาทีในพร้อมต์ช่วงเวลา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ s</string>
  532. <string id="millisecondsText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของกล่องมิลิวินาทีในพร้อมต์ช่วงเวลา ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์ คือ ms</string>
  533. <string id="headerText">ระบุหัวเรื่องที่ปรากฎด้านบนของรายการของตัวเลือกในพร้อมต์ค่า ข้อความหัวเรื่องดีฟอลต์คือชื่อของระดับที่อยู่ด้านบนไอเท็มข้อมูลที่แสดงรายการเป็นตัวเลือก เช่น ภูมิภาค</string>
  534. <string id="appContainerSelect">กำหนดเงื่อนไขที่จะใช้เพื่อไฮไลต์ไอเท็มเมื่อเลือกแล้วในตัวควบคุมหรือคอนเทนเนอร์ ตามค่าของตัวแปร การกำหนดชุดเงื่อนไขของคุณสมบัติ เลือกอัตโนมัติ เป็น ไม่มี</string>
  535. <string id="appContainerFilter">กำหนดเงื่อนไขที่จะใช้เพื่อกรองไอเท็มในตัวควบคุมหรือคอนเทนเนอร์ ตามค่าของตัวแปร</string>
  536. <string id="appControlEnabled">กำหนดเงื่อนไขที่จะใช้เพื่อเปิดใช้งานตัวควบคุมหรือคอนเทนเนอร์ ตามค่าของตัวแปร</string>
  537. <string id="appDataDefaultCard">การ์ดที่จะแสดงเมื่อไม่มีการ์ดอื่นที่ตรงกับสถานะตัวแปรในปัจจุบัน</string>
  538. <string id="appDefaultCard">การ์ดที่จะแสดงเมื่อไม่มีการ์ดอื่นที่ตรงกับสถานะตัวแปรในปัจจุบัน</string>
  539. <string id="appCards">การ์ดในเดสก์ แต่ละการ์ดต้องมีแถวที่สอดคล้องในตารางข้อมูลแบบสแตติก</string>
  540. <string id="appNoValueListItem">ระบุว่าจะกำหนดไอเท็มรายการดีฟอลต์หรือไม่ เมื่อเลือกไอเท็มดีฟอลต์ ให้ตั้งค่าของไอเท็มข้อมูลในตัวควบคุมเป็น null โดยดีฟอลต์ ไอเท็มที่ไม่มีค่าจะเป็นไอเท็มแรกในรายการ</string>
  541. <string id="appOnSelectSetVariableValues">ตั้งค่าของตัวแปรเมื่อเลือกตัวควบคุมหรือไอเท็มในตัวควบคุม</string>
  542. <string id="currentCard">การ์ดที่แสดงอยู่ในเดสก์ปัจจุบัน</string>
  543. <string id="currentTab">ระบุแท็บที่จะแสดงในรายงาน</string>
  544. <string id="refAppVariable">ระบุตัวแปรที่ใช้ในตัวควบคุม</string>
  545. <string id="appSummaryMethod">ระบุวิธีการรวม</string>
  546. <string id="appSummaryMethod_rowCell">ระบุวิธีการรวม</string>
  547. <string id="appSolveOrder">ระบุลำดับการแก้ไขในอ้างอิงไขว้ ไอเท็มที่มีค่าลำดับ การแก้ปัญหา ต่ำสุดจะถูกคำนวณก่อน ตามด้วยค่าต่ำสุดถัดมา เป็นต้น สำหรับค่าที่เหมือนกัน ไอเท็มคอลัมน์จะถูกคำนวณก่อน จากนั้นคำนวณไอเท็มแถว และการวัด</string>
  548. <string id="appButtonBarButtons">กำหนดปุ่มในแถบปุ่ม</string>
  549. <string id="appRadioButtons">กำหนดปุ่มในกลุ่มของปุ่มกด</string>
  550. <string id="appCheckboxes">กำหนดเช็กบ็อกซ์ในกลุ่มของเช็กบ็อกซ์</string>
  551. <string id="appListItems">กำหนดไอเท็มรายการในตัวควบคุม</string>
  552. <string id="appTabs">กำหนดแท็บในตัวควบคุมแท็บ</string>
  553. <string id="appButton">กำหนดปุ่มในตัวควบคุม</string>
  554. <string id="appOrientation">ระบุการจัดวางของตัวควบคุม</string>
  555. <string id="appNoValueListItemLabel">ระบุชื่อของไอเท็มที่ไม่มีรายการค่า</string>
  556. <string id="lastItemInList">ระบุตำแหน่งของไอเท็มที่ไม่มีค่ารายการในรายการ</string>
  557. <string id="appLabel">ระบุชื่อของอ็อบเจ็กต์ในตัวควบคุม</string>
  558. <string id="appIcon">ระบุรูปภาพที่ใช้เพื่อระบุอ็อบเจ็กต์ในตัวควบคุม</string>
  559. <string id="tabOrientation">ระบุการจัดวางแท็บในตัวควบคุมแท็บ</string>
  560. <string id="textColor">ระบุสีของข้อความในแต่ละเลเบล</string>
  561. <string id="appDimensions">ระบความสูงและความกว้างของตัวควบคุม</string>
  562. <string id="buttonWidth">ระบุความกว้างของปุ่มในแถบปุ่ม</string>
  563. <string id="buttonGap">ระบุช่องว่างระหว่างปุ่มในแถบปุ่ม</string>
  564. <string id="showIcon">เมื่อถูกกำหนด ระบุว่าจะแสดงไอคอนสำหรับแต่ละรายการในรายการดร็อบดาวน์</string>
  565. <string id="allowSorting">ระบุว่าอนุญาตให้เรียงลำดับคอลัมน์เมื่อเรียกใช้รายงานที่แอ็คทีฟหรือไม่ คุณสามารถตั้งค่าของคุณสมบัตินี้สำหรับหลายอ็อบเจ็กต์พร้อมกันโดยใช้ control+คลิก ที่ไอเท็มในรายการก่อน</string>
  566. <string id="appListColumnVisibility">ระบุว่าจะให้สามารถเห็นคอลัมน์เมื่อเรียกใช้รายงานที่แอ็คทีฟหรือไม่ คุณสามารถตั้งค่าการมองเห็นได้ของคอลัมน์ตามเงื่อนไข</string>
  567. <string id="visible">ระบุว่าจะให้สามารถเห็นคอลัมน์หรือแถวเมื่อเรียกใช้รายงานที่แอ็คทีฟหรือไม่ คุณสามารถตั้งค่าของคุณสมบัตินี้สำหรับหลายอ็อบเจ็กต์พร้อมกันโดยใช้ control+คลิก ที่ไอเท็มในรายการก่อน</string>
  568. <string id="showHover">ระบุว่าจะไฮไลต์พื้นที่ในคอนเทนเนอร์ข้อมูลที่สามารถคลิกได้หรือไม่</string>
  569. <string id="tabWidth">ระบุความกว้างของแท็บในตัวควบคุมแท็บ</string>
  570. <string id="slideDirection">ระบุทิศทางที่การ์ดใหม่จะปรากฎ เลือก Auto Horizontal หรือ Auto Vertical เพื่อตั้งค่าทิศทางโดยใช้ลำดับของการ์ดในเดสก์โดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น เมื่อระบุ Auto Horizontal ถ้าคุณดูการ์ดแรกในเดสก์และคุณเลือกที่จะดูการ์ดใบที่สี่ การ์ดใบที่สี่จะปรากฎจากทางด้านขวา จากนั้น ถ้าคุณเลือกดูการ์ดใบแรก การ์ดใบแรกจะปรากฎจากทางด้านซ้าย</string>
  571. <string id="appIteratorValues">กำหนดค่าของตัววนซ้ำ</string>
  572. <string id="appIteratorFirst">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนปุ่ม แรก ในตัววนซ้ำ</string>
  573. <string id="appIteratorPrevious">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนปุ่ม ก่อนหน้า ในตัววนซ้ำ</string>
  574. <string id="appIteratorLabelArea">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนเลเบลสำหรับค่าตัววนซ้ำ</string>
  575. <string id="appIteratorNext">ระบุเพื่อแสดงหรือซ่อนปุ่ม ถัดไป ในตัววนซ้ำ</string>
  576. <string id="appIteratorLast">ระบุว่าต้องการแสดงหรือซ่อนปุ่ม สุดท้าย ในตัววนซ้ำ</string>
  577. <string id="appIteratorFPNLUI">ระบุส่วนติดต่อผู้ใช้เพื่อใช้สำหรับปุ่มในตัววนซ้ำ</string>
  578. <string id="appIteratorLabelUI">ระบุส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับเลเบลของค่าตัววนซ้ำ</string>
  579. <string id="iteratorUIappLabel">กำหนดเลเบลของปุ่มในตัววนซ้ำ</string>
  580. <string id="iteratorUITextColor">ระบุสีของข้อความของเลเบลของปุ่ม</string>
  581. <string id="iteratorUIDropDownWidth">ระบุความกว้างของกล่องรายการดร็อบดาวน์</string>
  582. <string id="iteratorUIButtonWidth">ระบุความกว้างของปุ่ม</string>
  583. <string id="iteratorUIshowIcon">ระบุว่าจะแสดงไอคอนสำหรับเลเบลปัจจุบันหรือไม่</string>
  584. <string id="iteratorNumberProperties">ระบุลักษณะของตัวเลขที่เพื่อใช้สำหรับหมายเลขวนซ้ำ</string>
  585. <string id="dotColor">ระบุสีของจุดของค่าที่ไม่ได้เลือกในตัววนซ้ำ</string>
  586. <string id="activeDotColor">ระบุสีของจุดของค่าที่เลือกในตัววนซ้ำ</string>
  587. <string id="labelColor">ระบุสีของเลเบลในสไลด์เดอร์</string>
  588. <string id="trackLength">ระบุความยาวของแทร็กของสไลด์เดอร์</string>
  589. <string id="rangeType">ระบุว่าจะแสดงนิ้วโป้งหนึ่งหรือสองนิ้วและภูมิภาคใดของแทร็กที่ต้องการไฮไลต์</string>
  590. <string id="animate">ระบุว่าว่าจะแสดงภาพเคลื่อนไหวของสไลด์เดอร์หรือไม่</string>
  591. <string id="live">ระบุว่าจะอัพเดตตัวแปรเมื่อนิ้วโป้งเคลื่อนไหวหรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ รายงานจะถูกอัพเดตทันทีเมื่อนิ้วโป้งเคลื่อนไหว เมื่อตั้งค่าเป็น ไม่ รายงานจะถูกอัพเดตเฉพาะเมื่อนิ้วโป้งหยุดและถูกรีลีส</string>
  592. <string id="discreteTickInterval">ระบุช่วงเวลา ในค่าสไลด์เดอร์ระหว่างการแสดงเครื่องหมายถูก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณป้อน 3 เครื่องหมายถูกจะปรากฎขึ้นสำหรับทุกค่าที่สามในตัวสไลด์เดอร์ เพื่อใช้คุณสมบัตินี้ ต้องระบุค่าอื่นที่ไม่ใช่ ไม่มี หรือ ไม่มีเลเบล สำหรับคุณสมบัติ Tick Type</string>
  593. <string id="tickType">ระบุชนิดของเลเบลเพื่อแสดงสำหรับเครื่องหมายถูกในสไลด์เดอร์</string>
  594. <string id="tickLabelSkipInterval">ระบุช่วงเวลาเป็น ticks ระหว่างเลเบล ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงเลเบลที่ขัดแย้งกันในสไลด์เดอร์ ถ้ามีการขัดแย้งกันระหว่างสองเลเบล เลเบลที่สองจะไม่ถูกแสดง</string>
  595. <string id="continuousSliderVariable">ระบุตัวแปรที่เชื่อมโยงกับสไลด์เดอร์</string>
  596. <string id="sliderMin">ระบุค่าต่ำสุดของสไลด์เดอร์</string>
  597. <string id="sliderMax">ระบุค่าสูงสุดของสไลด์เดอร์</string>
  598. <string id="step">ระบุช่วงเวลาที่นิ้วโป้งสามารถพักได้</string>
  599. <string id="continuousTickInterval">ระบุช่วงเวลา ในค่าสไลด์เดอร์ระหว่างการแสดงเครื่องหมายถูก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณป้อน 20 ในสไลด์เดอร์ที่มีค่าระหว่าง 0 และ 100 เครื่องหมายถูกจะปรากฎที่ 20, 40, 60, 80 และ 100 เพื่อใช้คุณสมบัตินี้ ต้องระบุค่าอื่นที่ไม่ใช่ ไม่มี หรือ ไม่มีเลเบล สำหรับคุณสมบัติ Tick Type</string>
  600. <string id="continuousSliderMinVariable">ระบุตัวแปรเพื่อใช้สำหรับค่าที่น้อยที่สุดเมื่อชนิดของช่วงของสไลด์เดอร์เป็น ช่วง</string>
  601. <string id="continuousSliderMaxVariable">ระบุตัวแปรเพื่อใช้สำหรับค่าที่มากที่สุดเมื่อชนิดของช่วงของสไลด์เดอร์เป็น ช่วง</string>
  602. <string id="appDiscreteSliderValues">ระบุค่าของสไลด์เดอร์</string>
  603. <string id="whichValues">ระบุค่าของตัวแปรที่ต้องการแสดง ถ้าตัวแปรส่งคืนหลายค่า รายการจะแสดงค่าที่คั่นด้วยเครื่องหมายคอมม่า</string>
  604. <string id="clickableContainer">ระบุพื้นที่ของคอนเทนเนอร์ข้อมูลที่สามารถคลิกได้ สำหรับบางคอนเทนเนอร์ข้อมูล ถ้าคุณเลือกเพื่อทำให้ส่วนสามารถคลิกได้ คุณสามารถปรับแต่งพื้นที่ที่สามารถคลิกได้เพิ่มเติมด้วยคุณสมบัติ Clickable Region</string>
  605. <string id="showPointer">ระบุว่าต้องการแสดงเคอร์เซอร์ตัวชี้เป็นรูปมือเมื่อโฮเวอร์อยู่เหนือพื้นที่ที่สามารถคลิกได้ คุณสามารถตั้งค่าของคุณสมบัตินี้สำหรับหลายอ็อบเจ็กต์พร้อมกันโดยใช้ control+คลิก ที่ไอเท็มในรายการก่อน</string>
  606. <string id="clickableOptional">ระบุว่าต้องการทำให้อ็อบเจ็กต์สามารถคลิกได้หรือไม่ เมื่อเลือก (ดีฟอลต์) ค่าจะสืบทอดจากคุณสมบัติ Clickable Regions ของอ็อบเจ็กต์พาเรนต์</string>
  607. <string id="clickable">ระบุว่าต้องการทำให้อ็อบเจ็กต์สามารถคลิกได้หรือไม่เมื่อเรียกใช้รายงานที่แอ็คทีฟ คุณสามารถตั้งค่าของคุณสมบัตินี้สำหรับหลายอ็อบเจ็กต์พร้อมกันโดยใช้ control+คลิก ที่ไอเท็มในรายการก่อน</string>
  608. <string id="v2_minorInterval">เมื่อกำหนดเส้นกริดรองสำหรับแกนของแผนภูมิ ให้ระบุโดยจำนวนของช่วงเวลารองเพื่อหารช่วงเวลาหลัก ค่าดีฟอลต์คือ 2 ซึ่งแสดงเส้นกริดรองหนึ่งเส้นระหว่างเส้นกริดหลักแต่ละเส้น</string>
  609. <string id="v2_minorInterval2">เมื่อกำหนดเส้นกริดรองสำหรับแกนของแผนภูมิ ให้ระบุโดยจำนวนของช่วงเวลารองเพื่อหารช่วงเวลาหลัก ค่าดีฟอลต์คือ 2 ซึ่งแสดงเส้นกริดรองหนึ่งเส้นระหว่างเส้นกริดหลักแต่ละเส้น</string>
  610. <string id="markerStyle">ระบุรูปร่าง ชนิดของการเติมสี และสีของมาร์กเกอร์ในแผนภูมิ</string>
  611. <string id="v2_numericPosition_dataItemValue">ถ้ามาร์กเกอร์หรือเส้นฐานใช้การคำนวณเคียวรี อนุญาตให้คุณเปลี่ยนไปใช้ไอเท็มข้อมูลอื่น</string>
  612. <string id="defineCustomGrouping">ระบุรายละเอียดของไอเท็มข้อมูลในกลุ่มที่กำหนดเอง กลุ่มที่กำหนดเองสร้างกลุ่มของไอเท็มข้อมูลที่มีความหมายสำหรับคุณ</string>
  613. <string id="showTooltip">ระบุว่าจะแสดง tooltips ของค่าของสไลด์เดอร์เมื่อนิ่วโป้งถูกคลิกหรือเคลื่อนที่หรือไม่</string>
  614. <string id="sourceText_appDataItemValue">ระบุไอเท็มข้อมูลทีใช้เพื่อเติมไอเท็มข้อความในตัวควบคุม</string>
  615. <string id="sourceUrl_appDataItemValue">ระบุไอเท็มข้อมูลทีใช้เพื่อเติมไอเท็มรูปภาพในตัวควบคุม</string>
  616. <string id="sourceHtml_appDataItemValue">ระบุไอเท็มข้อมูลที่ใช้เพื่อเติมไอเท็ม HTML ในตัวควบคุม</string>
  617. <string id="appRepeaterTableCellValues">กำหนดค่าข้อมูลที่สามารถปรากฎในตาราง repeater ค่าจะถูกจัดระเบียบโดยไอเท็มข้อมูล นอกจากไอเท็มข้อมูลดีฟอลต์ (Label) และค่าที่จัดเตรียมไว้แล้ว คุณสามารถสร้างเลเบลข้อมูลและค่าของคุณเอง</string>
  618. <string id="containedTextDirection">ระบุทิศทางของข้อความที่อยู่ในอ็อบเจ็กต์แบบผสม อ็อบเจ็กต์แบบผสมรวมถึง แผนภูมิ แผนที่ และพร้อมต์ Contextual จะกำหนดทิศทางของข้อความโดยใช้อักขระตัวอักษรตัวแรกในข้อความ ถ้าอักขระเป็นของภาษาที่สนับสนุนสคริปต์แบบสองทิศทาง ทิศทางจะเป็นจากขวาไปซ้าย ไม่เช่นนั้น ทิศทางจะเป็นจากซ้ายไปขวา ตัวเลขและอักขระพิเศษจะไม่มีผลกับทิศทางของข้อความ ตัวอย่างเช่น ถ้าข้อความเริ่มต้นด้วยตัวเลขตามด้วยอักขระภาษาอาหรับ ทิศทางจะเป็นทางขวาไปซ้าย ถ้าข้อความเริ่มต้นด้วยตัวเลขตามด้วยอักขระภาษาละติน ทิศทางจะเป็นทางซ้ายไปขวา</string>
  619. <string id="displayForOrientation">ระบุการจัดวางของอุปกรณ์มือถือที่จำเป็นเพื่อแสดงอ็อบเจ็กต์เมื่อดูรายงานที่แอ็คทีฟ ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกในแนวนอน อ็อบเจ็กต์จะถูกแสดงเฉพาะเมื่อถืออุปกรณ์มือถือในแนวนอน อ็อบเจ็กต์จะไม่ถูกแสดงเมื่อหมุนอุปกรณ์มือถือในแนวตั้ง</string>
  620. <string id="appSliderTrackValuesFormat">ระบุรูปแบบข้อมูลของค่าสไลด์เดอร์</string>
  621. <string id="setDefinition">ระบุชุดของสมาชิก</string>
  622. <string id="labelFor">ระบุชื่อของตัวควบคุมพร้อมต์ที่เชื่อมโยงกับไอเท็มข้อความ คุณสมบัตินี้ใช้เพื่อเข้าถึงตัวควบคุมพร้อมต์โดยนิยามเลเบลสำหรับตัวควบคุม</string>
  623. <string id="refMeasure">การวัดที่ใช้เพื่อแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ของการสรุปข้อมูล</string>
  624. <string id="PercentageBasedOn">ระบุข้อมูลที่ถูกใช้เพื่อคำนวณค่าเปอร์เซ็นต์</string>
  625. <string id="vizValueDataFormat">ระบุรูปแบบข้อมูลของอ็อบเจ็กต์ อ็อบเจ็กต์นี้สนับสนุนเฉพาะการจัดรูปแบบตัวเลข</string>
  626. <string id="vizLabel">เลเบลสำหรับไอเท็มข้อมูล ข้อความอัตโนมัติใช้ชื่อไอเท็มข้อมูลเป็นเลเบล ข้อความที่ระบุใช้ข้อความซึ่งคุณระบุเป็นเลเบล ด้วยข้อความที่ระบุ คุณสามารถเพิ่มการแปลเลเบลเพื่อสนับสนุนผู้ใช้ในหลายภาษา</string>
  627. <string id="vizValueRollupMethod">ระบุเมธอดการรวมที่จะใช้ในการสรุปข้อมูลในการสร้างภาพ เมื่อผู้ใช้เลือกหลายค่าในตัวควบคุม Active Report เช่น ตัวควบคุมเช็กบ็อกซ์</string>
  628. <string id="overrideData">ระบุว่าจะใช้ข้อมูลที่กำหนดไว้ในคำนิยามการสร้างภาพแทนข้อมูลซึ่งคุณแทรกจากแพ็กเกจหรือไม่</string>
  629. <string id="edgeStructure">ระบุลำดับการซ้อนของหมวดหมู่พิเศษในเคียวรี เปลี่ยนลำดับการซ้อนของหมวดหมู่พิเศษเมื่อไอเท็มมาจากมิติเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การสร้างภาพมีปีเป็นหมวดหมู่ และมีเดือนและไตรมาสเป็นหมวดหมู่พิเศษ ลำดับของหมวดหมู่ต้องเป็น ปี ไตรมาส และเดือน เพื่อให้เคียวรีรัน</string>
  630. <string id="vizValueRange">ควบคุมวิธีการคำนวณค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดสำหรับการสร้างภาพ</string>
  631. <string id="vizClickable">ระบุพื้นที่ของการสร้างภาพที่สามารถคลิกได้ การสร้างภาพทั้งหมด ทำให้พื้นที่ทั้งหมดของการสร้างภาพสามารถคลิกได้ จุดตัดของการสร้างภาพ ทำให้แต่ละอิลิเมนต์ในการสร้างภาพสามารถคลิกได้</string>
  632. <string id="showVizTooltips">ระบุว่าเคล็ดลับเกี่ยวกับเครื่องมือจะแสดงขึ้นในการสร้างภาพหรือไม่ เมื่อคุณวางเมาส์บนอิลิเมนต์ข้อมูล ไม่สนับสนุน tooltips ในเอกสาร PDF</string>
  633. <string id="TOCEntry">ระบุว่าจะรวมไอเท็ม booklet หรือไม่เมื่อเพิ่มสารบัญลงในรายงาน</string>
  634. <string id="bookletItemName">ชื่อของไอเท็ม booklet</string>
  635. <string id="bookletReportPath">รายงานที่มีการอ้างอิงเป็นไอเท็ม booklet</string>
  636. <string id="parameterHandling">ระบุวิธีการจัดการกับค่าพารามิเตอร์ที่บันทึกไว้ซึ่งมาจากไอเท็ม booklet ค่าพารามิเตอร์รวมถึง signon, การตรวจสอบความถูกต้อง และข้อมูลพร้อมต์ และมีการบันทึกไว้บนเซิร์ฟเวอร์ IBM® Cognos® เมื่อเลือก ละเว้น ระบบไม่ใช้ค่าเมื่อรันรายงาน เมื่อเลือก ผสาน ค่าพารามิเตอร์ที่มาจากไอเท็ม booklet ถูกผสานเข้ากับค่าพารามิเตอร์ที่มาจาก booklet รายงาน ถ้าค่าเดียวกันมีอยู่แล้วสำหรับทั้งสองไอเท็ม booklet ทั้ง booklet และค่าไอเท็ม booklet จะถูกละเว้น</string>
  637. <string id="resolvePromptPages">เมื่อรันรายงาน ให้ระบุว่าจะจัดแสดงหน้าพร้อมต์ที่ได้รับอนุญาตซึ่งมาจากไอเท็ม booklet หรือไม่</string>
  638. <string id="startHeadingLevel">เมื่อไอเท็ม booklet รวมอยู่ในสารบัญ ให้ระบุระดับส่วนหัวเริ่มต้นสำหรับไอเท็ม booklet ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณระบุ 2 รายการสารบัญทั้งหมดสำหรับไอเท็ม booklet จะมีหมายเลขส่วนที่ขึ้นต้นด้วย 2</string>
  639. <string id="rollupTOC">ระบุว่าจะย้อนกลับรายการสารบัญสำหรับไอเท็ม booklet ใน booklet รายงานหรือไม่</string>
  640. <string id="outputType">ระบุตำแหน่งในการจัดแสดงการสร้างภาพ การสร้างภาพที่จัดแสดงบนเซิร์ฟเวอร์ IBM® Cognos® มีการจัดแสดงเป็นอิมเมจที่ไม่เคลื่อนไหว คุณสมบัติการสร้างภาพบางรายการใช้กับอ็อพชันอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น การจัดแสดงการสร้างภาพบนเซิร์ฟเวอร์ Cognos หรือบนไคลเอ็นต์มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและขนาดของ Active Report ด้วยเหตุนี้ เมื่อต้องการเปิดใช้งานการกรองด้านไคลเอ็นต์ ให้เลือก ไคลเอ็นต์</string>
  641. <string id="vizShowHover">ระบุว่าจะไฮไลต์พื้นที่ในการสร้างภาพที่สามารถคลิกได้หรือไม่</string>
  642. <string id="formatSubset">ระบุรูปแบบข้อมูลของอ็อบเจ็กต์ อ็อบเจ็กต์นี้สนับสนุนเฉพาะการจัดรูปแบบตัวเลข</string>
  643. <string id="categoryValueRangeClientSide">ระบุว่าจะแสดงช่วงของข้อมูลที่จัดหมวดหมู่ทั้งหมดในการสร้างภาพ หรือช่วงที่กรองซึ่งสอดคล้องกับค่าที่เลือกในตัวควบคุม Active Report ตัวอย่างเช่น เมื่อเลือก ชุดข้อมูลทั้งหมด ไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์ทั้งหมดแสดงขึ้นเสมอในการสร้างภาพ และสีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการยังคงเป็นสีเดียวกันในการสร้างภาพ เมื่อแทรกหมวดหมู่บนแกน ช่องว่างจะมีการเก็บรักษาไว้บนแกนสำหรับข้อมูลทั้งหมด เมื่อเลือก ข้อมูลที่กรอง เฉพาะข้อมูลที่กรองเท่านั้นแสดงขึ้นในคำอธิบายสัญลักษณ์และบนแกน สีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการสามารถเปลี่ยนได้เมื่อผู้ใช้เลือกค่าอื่นในตัวควบคุม</string>
  644. <string id="filterType">ชนิดของตัวกรองที่จะสร้างสำหรับความสัมพันธ์รวม In สร้างเพรดิเคต IN ของค่าคงที่ Between สร้างเพรดิเคต BETWEEN โดยใช้ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดของคีย์รวม Table สร้างรูปแบบตัวสร้างแถวตารางของเพรดิเคต IN ตามดีฟอลต์ ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพตัวกรอง ให้ใช้กับโหมดเคียวรีแบบไดนามิกเท่านั้น</string>
  645. <string id="reverse">ระบุว่าจะย้อนกลับทิศทางของสไลด์เดอร์หรือไม่ เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ สไลด์เดอร์แนวนอนจะมีทิศทางจากขวาไปซ้าย และสไลด์เดอร์แนวตั้งจะมีทิศทางจากล่างขึ้นบน</string>
  646. <string id="layoutTable">ระบุว่าจะจัดแสดงอ็อบเจ็กต์เป็นตารางข้อมูล หรือเป็นตารางโครงร่าง ใช้กับรายการ อ้างอิงไขว้ และตารางตัวทำซ้ำ ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อทำให้รายงานของคุณสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณสร้างส่วนในรายการ รายการด้านนอกจะทำหน้าที่เป็นส่วนหัว ไม่ใช่เป็นแถวข้อมูล เมื่อต้องการระบุรายการด้านนอกเป็นตารางโครงร่างอย่างถูกต้อง ให้ตั้งค่าคุณสมบัตินี้สำหรับรายการด้านนอกเป็น ใช่</string>
  647. <string id="vizType">ชนิดการสร้างภาพ คุณสมบัตินี้แสดง ID การสร้างภาพ ซึ่งยังแสดงถึงชื่อบันเดิลการสร้างภาพด้วย</string>
  648. <string id="autoChart">ชนิดแผนภูมิอัตโนมัติ</string>
  649. <string id="styleReference">รายงานที่อ้างอิงสไตล์</string>
  650. <string id="vizEmptyFieldItemLabel">ถ้าไม่ได้ระบุไอเท็มข้อมูลสำหรับหมวดหมู่ ให้กำหนดเลเบลที่จะใช้สำหรับไอเท็มหมวดหมู่ที่ว่าง ใช้เลเบลค่าเป็นเลเบลโดยอัตโนมัติ ยกเว้นว่าการสร้างภาพมีหลายค่า เมื่อมีหลายค่า จะไม่มีข้อความปรากฎขึ้นสำหรับเลเบล ข้อความที่ระบุใช้ข้อความซึ่งคุณระบุเป็นเลเบล ด้วยข้อความที่ระบุ คุณสามารถเพิ่มการแปลเลเบลเพื่อสนับสนุนผู้ใช้ในหลายภาษา</string>
  651. <string id="ignoreNoDataForHover">ระบุว่าจะไฮไลต์พื้นที่ในคอนเทนเนอร์ข้อมูลที่ไม่สามารถคลิกได้หรือไม่ เนื่องจากไม่มีข้อมูลสำหรับพื้นที่เหล่านั้น</string>
  652. <string id="appDrills">ระบุนิยามการเจาะลึกแบบรายงานที่แอ็คทีฟต่อรายงานที่แอ็คทีฟ คุณสมบัตินี้เปิดใช้งานการเจาะลึกจากรายงานที่แอ็คทีฟรายงานหนึ่งไปยังรายงานที่แอ็คทืฟอีกรายงานหนึ่งเมื่อดูรายงานใน IBM® Cognos® Mobile</string>
  653. <string id="vizValueDecimal">ระบุว่าจะใช้เลขทศนิยมของ IBM® Cognos® Active Report หรือตัวเลข JavaScript เพื่อแสดงแทนค่า การใช้เลขทศนิยมของ Active Report ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แต่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของรายงานที่แอ็คทีฟ การใช้ตัวเลข JavaScript สามารถทำให้เลขที่มีจุดทศนิยมไม่ถูกต้องในเลขทศนิยมบางตัว แต่ประสิทธิภาพมักจะดีขึ้น</string>
  654. <string id="v2_labelControl">ควบคุมวิธีแสดงเลเบลในแผนภูมิ</string>
  655. <string id="numberOfStaggerLevels">ระบุจำนวนระดับการเยื้องที่จะใช้เมื่อแสดงเลเบลบนคำอธิบายข้อมูลในแนวตั้งและแนวนอน</string>
  656. <string id="rotationAngle">ระบุมุมเป็นองศาในการหมุนเลเบลเมื่อแสดงเลเบลบนคำอธิบายข้อมูลในแนวตั้ง และแนวนอน</string>
  657. <string id="autoSelect">ระบุเพื่อเลือกไอเท็มแรกหรือไอเท็มสุดท้ายในตัวควบคุมโดยอัตโนมัติ เมื่อเลือกค่าอื่นที่ไม่ใช่ ไม่มี เงื่อนไขใด ๆ ที่กำหนดไว้ในคุณสมบัติ การเลือกคอนเทนเนอร์ จะถูกลบออก</string>
  658. <string id="categoryDataItemValueRangeClientSide">ระบุว่าจะแสดงช่วงของข้อมูลที่จัดหมวดหมู่ทั้งหมดในการสร้างภาพ หรือช่วงที่กรองซึ่งสอดคล้องกับค่าที่เลือกในตัวควบคุม Active Report ตัวอย่างเช่น เมื่อเลือก ชุดข้อมูลทั้งหมด ไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์ทั้งหมดแสดงขึ้นเสมอในการสร้างภาพ และสีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการยังคงเป็นสีเดียวกันในการสร้างภาพ เมื่อแทรกหมวดหมู่บนแกน ช่องว่างจะมีการเก็บรักษาไว้บนแกนสำหรับข้อมูลทั้งหมด เมื่อเลือก ข้อมูลที่กรอง เฉพาะข้อมูลที่กรองเท่านั้นแสดงขึ้นในคำอธิบายสัญลักษณ์และบนแกน สีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการสามารถเปลี่ยนได้เมื่อผู้ใช้เลือกค่าอื่นในตัวควบคุม</string>
  659. <string id="runOptions">ระบุอ็อพชันการรันสำหรับรายงาน เช่น รูปแบบเอาต์พุต จำนวนข้อมูลที่ต้องการส่งคืน และจำนวนแถวต่อเพจ</string>
  660. <string id="burstOptions">ระบุอ็อพชันการแยกสำหรับรายงาน เช่น ไอเท็มข้อมูลที่ต้องการแยกรายงานและผู้รับ</string>
  661. <string id="upgradeInfo">แสดงปัญหาใด ๆ ที่ตรวจพบเมื่ออัพเกรดรายงาน</string>
  662. <string id="viewPagesAsTabs">ในเอาต์พุต HTML ให้ระบุว่าต้องการแสดงรายงานแต่ละเพจในแท็บของตนเอง และระบุตำแหน่งที่แท็บจะปรากฎขึ้นในเบราว์เซอร์</string>
  663. <string id="useStyleVersion">ระบุคลาสผลิตภัณฑ์ IBM Cognos เพื่อใช้เพื่อจัดรูปแบบอ็อบเจ็กต์ เลือกลักษณะ 1.x เพื่อใช้ลักษณะ IBM Cognos ReportNet เลือกลักษณะ 8.x หรือลักษณะ 10.x เพื่อใช้คลาส IBM Cognos BI เลือกลักษณะ 11.x เพื่อใช้คลาส IBM Cognos Analytics เลือกลักษณะแบบง่ายเพื่อใช้คลาสที่มีการกำหนดลักษณะน้อยสุด ซึ่งมีประโยชน์เมื่อสร้างรายงานทางการเงิน</string>
  664. <string id="interactivePageBreakByFrame">สำหรับรายงานที่มีคอนเทนเนอร์ข้อมูลจำนวนมาก ให้ระบุว่าต้องการสร้างการแสดงผลจำนวนแถวดีฟอลตของแต่ละคอนเทนเนอร์ข้อมูลบนแต่ละเพจ HTML</string>
  665. <string id="paginateHTMLOutput">ในเอาต์พุต HTML ที่บันทึกแล้ว ให้ระบุว่าต้องการสร้างเพจจำนวนมากหรือเพจเดียวที่สามารถเลื่อนได้</string>
  666. <string id="use1xCSVExport">เมื่อทำงานกับรายงานที่สร้างขึ้นใน IBM Cognos ReportNet ให้ระบุว่าต้องการสร้างเอาต์พุตรายงานในรูปแบบ CSV</string>
  667. <string id="defaultPageSetup">ตั้งค่าอ็อพชันเพจ PDF</string>
  668. <string id="conditionalLayouts">เพิ่มโครงร่างไปยังรายงานอ้างอิงตามเงื่อนไข เงื่อนไขถูกนิยามไว้โดยใช้ตัวแปร</string>
  669. <string id="reportName">ชื่อของรายงาน ระบุเมมื่อบันทึกรายงานแล้ว</string>
  670. <string id="defaultDataFormats">ระบุคุณสมบัติรูปแบบข้อมูลดีฟอลต์สำหรับชนิดข้อมูลแต่ละชนิด</string>
  671. <string id="drillUpDown">เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการดริลอัพและดริลดาวน์ในรายงาน คุณสมบัตินี้ยังสามารถตั้งค่าในแท็บ พื้นฐาน ของคุณสมบัติลักษณะการทำงานระดับสูง</string>
  672. <string id="modelBasedDrillThru">เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานรายงานที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลระหว่างการเจาะลึกแบบแพ็คเกจ คุณสมบัตินี้ยังสามารถตั้งค่าได้ในแท็บ พื้นฐาน ของคุณสมบัติพฤติกรรม การเจาะขั้นสูง</string>
  673. <string id="acceptDynamicFilter">เมื่อรายงานเป็นเป้าหมายของการเจาะลึก ให้ระบุว่าจะใช้การกรองเพิ่มเติมหรือไม่ เมื่อชื่อจากบริบทในรายงานต้นฉบับตรงกับชื่อของไอเท็มในรายงานเป้าหมาย คุณสมบัตินี้ยังสามารถตั้งค่าได้ในแท็บ พื้นฐาน ของคุณสมบัติพฤติกรรม การเจาะขั้นสูง</string>
  674. <string id="advancedDrillUpDown">ระบุลักษณะการทำงานดริลอัพและดริลดาวน์สำหรับไอเท็มข้อมูลใด ๆ ในรายงาน</string>
  675. <string id="reportStyleRef">นำสไตล์แบบโลคัลและแบบโกลบอลจากรายงานอื่นไปใช้งาน</string>
  676. <string id="currentCardForDataDeck">การ์ดที่แสดงอยู่ในเดสก์ปัจจุบัน</string>
  677. <string id="className">ชื่อของคลาส</string>
  678. <string id="src">รายงานเป้าหมายสำหรับ iFrame</string>
  679. <string id="refAppDrillTo">สร้างหรือแก้ไขลิงก์แอ็พพลิเคชัน ลิงก์แอ็พพลิเคชันใช้เพื่อผ่านข้อมูลพารามิเตอร์ไปยังรายงานเป้าหมาย หรือเว็บเพจภายนอก</string>
  680. <string id="dataItemSharing">สร้างนิยามเซ็ตที่แบ่งใช้</string>
  681. <string id="appProperties">ระบุคุณสมบัติของรายงานที่แอ็คทีฟ</string>
  682. <string id="useAdvancedViewer">ระบุว่าให้เปิดใช้งานกิจกรรมระหว่างกันในเอาต์พุตรายงาน เมื่อตั้งค่าเป็น ใช่ ผู้ใช้จะสามารถทำการเปลี่ยนแปลงในรายงานได้ เช่น กรองข้อมูลและจัดรูปแบบรายงาน ตามค่าดีฟอลต์แล้ว การทำกิจกรรมระหว่างกันถูกปิดใช้งานสำหรับรายงานที่สร้างขึ้นใน IBM Cognos BI เวอร์ชันก่อนหน้านี้</string>
  683. <string id="expressionLocale">ระบุภาษาแพ็กเกจ</string>
  684. <string id="detailRollup">ระบุชนิดของการที่ต้องการใช้ ค่าติดตั้ง Automatic หมายความว่าแอ็พพลิเคชันจะจัดกลุ่มหรือสรุปโดยใช้ชนิดข้อมูล ค่าติดตั้ง Summarize หมายความว่าจะใช้ค่าติดตั้งที่พบในโมเดลเพื่อกำหนดชนิดของการรวม ค่าติดตั้งดีฟอลต์คือ Automatic</string>
  685. <string id="groupRollup">ระบุชนิดของการรวมเพื่อใช้กับค่าการสรุป ค่าเหล่านี้จะปรากฎที่ระดับสูงของรายการและอ้างอิงไขว้ สำหรับแหล่งข้อมูล OLAP ฟังก์ชัน rollup aggregate ของ Count Distinct สนับสนุนสำหรับระดับและชุดของสมาชิกเท่านั้น</string>
  686. <string id="applicationLinks">สร้างหรือแก้ไขลิงก์แอ็พพลิเคชัน ลิงก์แอ็พพลิเคชันใช้เพื่อผ่านข้อมูลพารามิเตอร์ไปยังรายงานเป้าหมาย หรือเว็บเพจภายนอก</string>
  687. <string id="allowOnDemandToolbarInRun">ในเอาต์พุตIn HTML ให้ระบุว่าแถบเครื่องมือตามต้องการพร้อมใช้งานหรือไม่ ดีฟอลต์คือ yes นำไปใช้ก็ต่อเมื่อเปิดใช้งานแถบเครื่องมือตามต้องการสำหรับบทบาทของผู้ใช้ไว้</string>
  688. <string id="queryReportData">ระบุแพ็กเกจที่ใช้โดยเคียวรี</string>
  689. <string id="refQueryDataSet">ระบุการอ้างอิงถึงเคียวรี</string>
  690. <string id="masterDetailLinksDataSet">ระบุความสัมพันธ์ระหว่างคอนเทนเนอร์ข้อมูลต้นฉบับและคอนเทนเนอร์ข้อมูลรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบุวิธีที่ไอเท็มเคียวรีในเคียวรีต้นฉบับลิงก์กับไอเท็มเคียวรีหรือพารามิเตอร์ในเคียวรีรายละเอียด</string>
  691. <string id="showColumnTitlesBoolean">ระบุว่าจะแสดงชื่อคอลัมน์หรือไม่</string>
  692. <string id="lcShowColumnTitles">ระบุว่าจะแสดงชื่อคอลัมน์หรือไม่</string>
  693. <string id="scrollableAreaHeight">ระบุความสูงของพื้นที่ที่สามารถเลื่อนได้ หน่วยเป็นพิกเซล</string>
  694. <string id="list_scrollableAreaHeight">ระบุความสูงของพื้นที่ที่สามารถเลื่อนได้ หน่วยเป็นพิกเซล</string>
  695. <string id="rowHeight">ระบุความสูงของแถวแต่ละแถวในตารางข้อมูลในหน่วยพิกเซลของข้อมูล</string>
  696. <string id="selectionBackgroundColor">ระบุสีพื้นหลังของไอเท็มที่เลือก</string>
  697. <string id="selectionForegroundColor">ระบุสีด้านหน้าของไอเท็มที่เลือก</string>
  698. <string id="appListRowStyleSequence">ระบุลำดับของสีที่จะใช้กับแถวในรายการ</string>
  699. <string id="lcRowStyleSequence">ระบุลำดับของสีที่จะใช้กับแถวในตารางข้อมูลนี้.\r\n</string>
  700. <string id="appListQueryStructure">ระบุวิธีวางไอเท็มข้อมูลในเคียวรี ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อให้แน่ใจว่าไอเท็มข้อมูลอยู่ในลำดับการซ้อนที่ถูกต้อง หากไอเท็มเรียงลำดับไม่ถูกต้องในเคียวรี รายงานอาจไม่รัน</string>
  701. <string id="appListBorder">ระบุสีสำหรับขอบที่แตกต่างกันในรายการข้อมูล</string>
  702. <string id="columnWidth">ระบุความกว้างของคอลัมน์ เป็นพิกเซล</string>
  703. <string id="allowSorting_appListColumn">ระบุว่าอนุญาตให้เรียงลำดับคอลัมน์เมื่อเรียกใช้รายงานที่แอ็คทีฟหรือไม่</string>
  704. <string id="builtinViz">ฝังตัวบ่งชี้แบบกำหนดเองในรายการข้อมูลสำหรับค่าคอลัมน์ คุณระบุชนิดของตัวบ่งชี้ที่กำหนดเองที่ถูกแสดงและรูปทรงและสีของค่าข้อมูล ซึ่งต้องอยู่ระหว่าง -1 ถึง 1</string>
  705. <string id="appFactDecimal">ระบุว่าจะใช้เลขทศนิยมของ IBM® Cognos® Active Report หรือตัวเลข JavaScript เพื่อแสดงแทนค่า การใช้เลขทศนิยมของ Active Report ให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แต่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของรายงานที่แอ็คทีฟ การใช้ตัวเลข JavaScript สามารถทำให้เลขที่มีจุดทศนิยมไม่ถูกต้องในเลขทศนิยมบางตัว แต่ประสิทธิภาพมักจะดีขึ้น</string>
  706. <string id="defineAppListColumnTitleLabel">แทนที่เลเบลดีฟอลต์ของคอลัมน์ เมื่อตั้งค่าเป็น Yes ให้ระบุเลเบลใหม่ในคุณสมบัติ Label ที่ปรากฎ</string>
  707. <string id="appListColumnTitleLabel">ระบุเลเบลของชื่อคอลัมน์</string>
  708. <string id="detailFilterDisplay">ระบุวิธีแสดงข้อความตัวกรองสำหรับตัวกรองรายละเอียดที่ใช้กับอ็อบเจ็กต์ อ็อพชัน Changeable ในวิวเวอร์จะแสดงเฉพาะตัวกรองที่สามารถเปลี่ยนได้ใน Cognos Viewer อ็อพชัน Not changeable ในวิวเวอร์จะแสดงเฉพาะตัวกรองที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ใน Cognos Viewer</string>
  709. <string id="summaryFilterDisplay">ระบุว่าจะแสดงข้อความตัวกรองสำหรับตัวกรองสรุปทั้งหมดที่ใช้กับอ็อบเจ็กต์หรือไม่</string>
  710. <string id="ccConfiguration">JSON ที่ถูกใช้เพื่อกำหนดคอนฟิกตัวควบคุมแบบกำหนดเอง</string>
  711. <string id="ccPath">ตำแหน่งของไฟล์ที่มี JavaScript สำหรับตัวควบคุมแบบกำหนดเอง</string>
  712. <string id="pageModulePath">ตำแหน่งของไฟล์ที่มี JavaScript สำหรับโมดูลหน้า</string>
  713. <string id="ccHeight">ความสูงของตัวควบคุมแบบกำหนดเอง</string>
  714. <string id="ccWidth">ความกว้างของตัวควบคุมแบบกำหนดเอง</string>
  715. <string id="ccUiType">อินเตอร์เฟสที่ตัวควบคุมแบบกำหนดเองใช้เพื่อโต้ตอบกับรายงาน</string>
  716. <string id="ccDescription">ระบุคำอธิบายสำหรับอ็อบเจ็กต์ ที่ใช้เพื่อช่วยในการเขียน</string>
  717. <string id="ccName">ระบุชื่อที่ไม่ซ้ำกันที่อนุญาตให้ใช้อ็อบเจ็กต์โครงร่างซ้ำ โดยทั่วไปเพื่อใช้ประโยชน์ของการกำหนดลักษณะใด ๆ ที่นำมาใช้</string>
  718. <string id="appListValueRollupMethod">ระบุเมธอดการรวมที่จะใช้ในการสรุปข้อมูลในการสร้างภาพ เมื่อผู้ใช้เลือกหลายค่าในตัวควบคุม Active Report เช่น ตัวควบคุมเช็กบ็อกซ์</string>
  719. <string id="appListOverallSummary">เพิ่มสรุปทั้งหมดลงในรายการข้อมูล</string>
  720. <string id="vcSlotLabel">เลเบลสำหรับไอเท็มข้อมูล ข้อความอัตโนมัติใช้ชื่อไอเท็มข้อมูลเป็นเลเบล ข้อความที่ระบุใช้ข้อความซึ่งคุณระบุเป็นเลเบล ด้วยข้อความที่ระบุ คุณสามารถเพิ่มการแปลเลเบลเพื่อสนับสนุนผู้ใช้ในหลายภาษา</string>
  721. <string id="idSlot">ตัวบ่งชี้สำหรับสล็อต</string>
  722. <string id="idDataSet">ตัวบ่งชี้สำหรับชุดข้อมูล</string>
  723. <string id="format_vcSlotData">ระบุรูปแบบข้อมูลของอ็อบเจ็กต์</string>
  724. <string id="vcValueFormat">ระบุรูปแบบข้อมูลของอ็อบเจ็กต์ อ็อบเจ็กต์นี้สนับสนุนเฉพาะการจัดรูปแบบตัวเลข</string>
  725. <string id="vcSlotDomainDiscreteUsed">ระบุว่าจะแสดงช่วงของข้อมูลแบบหมวดหมู่ทั้งหมดในวิชวลไลเซชันหรือช่วงที่กรอง ตัวอย่างเช่น เมื่อเลือก ข้อมูลทั้งหมด ไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์ทั้งหมดแสดงขึ้นเสมอในการสร้างภาพ และสีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการยังคงเป็นสีเดียวกันในวิชวลไลเซชัน เมื่อแทรกหมวดหมู่บนแกน ช่องว่างจะมีการเก็บรักษาไว้บนแกนสำหรับข้อมูลทั้งหมด เมื่อเลือก ข้อมูลที่กรอง เฉพาะข้อมูลที่กรองเท่านั้นแสดงขึ้นในคำอธิบายสัญลักษณ์และบนแกน สีของไอเท็มคำอธิบายสัญลักษณ์แต่ละรายการสามารถเปลี่ยนได้เมื่อผู้ใช้กรองด้วยค่าอื่นในวิชวลไลเซชัน</string>
  726. <string id="vcColumnSort">ระบุลำดับการเรียงลำดับที่ต้องการ</string>
  727. <string id="vcSlotDomainScalar">ควบคุมวิธีการคำนวณค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดสำหรับการสร้างภาพ</string>
  728. <string id="vcRollupMethod">ระบุชนิดของการรวมที่จะนำไปใช้เมื่อใช้ข้อมูลเพิ่มเติมในวิชวลไลเซชัน</string>
  729. <string id="lcGroups">ระบุโครงสร้างการจัดกลุ่มและชนิดของการรวมเพื่อใช้กับค่าสรุปสำหรับส่วนหัวและส่วนท้ายที่จัดกลุ่มไว้</string>
  730. <string id="multipleValuesLabel">ระบุข้อความที่จะใช้เมื่อกลุ่มของค่าถูกยุบรวมอยู่ในสถานะถูกยุบ ค่าดีฟอลต์คือ "# # # #"</string>
  731. <string id="snapToRow">ควบคุมพอร์ตมุมมองของคุณ เมื่อตั้งค่าเป็น "yes" view port จะถูกล็อกไว้ที่จุดเริ่มต้นของแถวหลังจากผู้ใช้หยุดการเลื่อนหน้าจอ.</string>
  732. <string id="allowColumnResize">ควบคุมความสามารถในการปรับขนาดความกว้างของคอลัมน์ตารางข้อมูลสำหรับเอาต์พุตรายงาน</string>
  733. <string id="groupSpan">ควบคุมการแสดงข้อมูลสำหรับคอลัมน์ที่จัดกลุ่มโดยอิงตามค่าคอลัมน์ที่มีต่อมา</string>
  734. <string id="lcSummaryHeader">เพิ่มส่วนหัวที่ด้านบนสุดของตารางข้อมูลและระบุอ็อพชันการรวมสำหรับค่าที่สรุปไว้</string>
  735. <string id="lcSummaryFooter">เพิ่มส่วนท้ายที่ด้านล่างของตารางข้อมูลและรวมค่าสรุปของการรวมเข้าด้วยกัน</string>
  736. <string id="lcExpandCollapseIndicatorColor">ระบุสีสำหรับตัวบ่งชี้การขยาย/การยุบ</string>
  737. <string id="lcExpandCollapseIndicatorShape">ระบุรูปร่างสำหรับตัวบ่งชี้การขยาย/ย่อ</string>
  738. <string id="lcColumnTitleLabel">ระบุเลเบลสำหรับหัวเรื่องของคอลัมน์</string>
  739. <string id="legacyDrillDown">Specifies default behaviour when drilling down on a crosstab, legacy chart, or list item. Expand replaces the drilled on item with its children inplace. Replace replaces the drilled on item and associated items with the children of the item and the item.</string>
  740. <string id="genericHints">Advanced configuration settings for the query engine.</string>
  741. </section>
  742. </component>
  743. </stringTable>